"สรรเสริญ" กระทุ้ง ทอท.ส่งแผนแก้ปัญหาสุวรรณภูมิ 5 เรื่องหลัก

Submitted by admin on

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมไล่บี้ผู้บริหาร ทอท.ส่งแผนความคืบหน้าการแก้ปัญหาสนามบินสุวรรณภูมิ 5 เรื่องหลัก ทั้งรันเวย์และแท็กซี่เวย์ มลพิษทางเสียง คลังสินค้า การจราจรและปัญหาภายในอาคารผู้โดยสาร ก่อนแถลงภาพรวมครบรอบ 1 ปี วันที่ 28 ก.ย.นี้ ให้สาธารณชนรับทราบ ขณะที่ ผู้บริหาร ทอท. ย้ำขอเวลา 2 ปี ดันสุวรรณภูมิแข่งความเป็นสนามบินที่ดีที่สุดในโลก

"ยูไนเต็ด" ยกเครื่องชั้นธุรกิจ ติดเก้าอี้ปรับนอน 180 องศาใหม่ยกลำ

Submitted by admin on

สายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ พลิกโฉมห้องโดยสารชั้นธุรกิจครั้งใหญ่ ทุ่มงบฯ ติดตั้งเก้าอี้ปรับเอนนอนได้ 108 องศาใหม่ทั้งหมด ถือเป็นสายการบินแรกในอเมริกา ที่ติดตั้งที่นั่งโดยสารชนิดนี้

สายการบินยูไนเต็ด เผยถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ บนเที่ยวบินระหว่างประเทศชั้นธุรกิจ (United Business®) ที่ให้ผู้โดยสาร ได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ตลอดการเดินทางด้วยพื้นที่ทำงาน และพักผ่อนที่กว้างขวางยิ่งขึ้น ช่วยเสริมสร้างความโดดเด่นให้สายการบินยูไนเต็ด ในฐานะที่เป็นสายการบินแรกของสหรัฐ ที่ติดตั้งที่นั่งโดยสาร สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ ที่สามารถปรับนอนได้อย่างแท้จริงถึง 180 องศา

Suvarnabhumi not among the world's best airport

Submitted by admin on

Despite its advantage as the world’s newest airport, the gleaming Suvarnabhumi Airport was not counted among the best in the latest major global passenger poll.

However, rival regional airports including Singapore Changi and Kuala Lumpur International Airport (KLIA) continue to remain high on the list of top 10 Airports of the Year for 2007.

The survey conducted by the UKbased aviation research organisation Skytrax placed Hong Kong International Airport (HKIA) first, followed by Seoul Incheon Airport and Changi tied for second place (see table).

เผยต่างชาติเที่ยวไทย ครึ่งปีแรกเฉียด7ล้านคน

Submitted by admin on

เผยตัวเลขปริมาณนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศ ที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยทุกช่องทางแล้ว รวม 6,954,752 คน แยกเป็นที่สุวรรณภูมิ มากที่สุด 4,915,498 คน เผยชาวเอเชียเข้ามากที่สุด 2,278,048 คน

รายงานจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รายงานว่า สถิติจำนวนนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศ ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ปี 2550 ในช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ ในภาพรวมทั้งประเทศมีประมาณ 6,954,752 คน โดยเดือนมกราคม มีปริมาณมากที่สุดที่ 1,313,677 คน แต่เดือนที่เพิ่มมากที่สุดคือ กุมภาพันธ์เติบโต 8.49% ขณะที่เดือนพฤษภาคม มีปริมาณเข้ามาน้อยที่สุด 990,810 คน เติบโตแค่ 0.93% ส่วนปี 2549 ทั้งปีมีปริมาณ 13,821,802 คน

ทั้งนี้หากแบ่งแต่ละด่านแล้ว จะพบว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีปริมาณนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศ ที่เดินทางเข้ามาในช่วงครึ่งปีแรกนี้ที่ 4,915,498 คน โดยเดือนมกราคมมีปริมาณมากที่สุด 913,073 คน แต่เดือนเมษายนเติบโตมากที่สุดคือ 5.32% หรือมีปริมาณ 802,535 คน ขณะที่ทั้งปี 2549 ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีปริมาณ 9,799,993 คน

สำหรับท่าอากาศยานภูเก็ต มีจำนวนนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศผ่านเข้ามาช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ เท่ากับ 625,068 คน โดยเดือนกุมภาพันธ์ มีปริมาณมากที่สุด 152,292 คน และยังเป็นเดือนที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดด้วย 43.48% ขณะที่เดือนมิถุนายนมีปริมาณ 60,937 คน ตกลงมากที่สุด 13.68% ขณะที่ทั้งปีที่แล้วมีปริมาณรวม 1,159,027 คน

ส่วนท่าด่านสะเดา ช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ มีปริมาณนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศเดินทางเข้ามารวม 351,865 คน โดยเดือนกุมภาพันธ์เป็นเดือนที่มีปริมาณมากที่สุด 78,925 คน และมีอัตราเพิ่มมากที่สุด 14.85% ขณะที่เดือนมิถุนายนนั้นมีปริมาณน้อยที่สุด 48,865 คน ติดลบมากถึง 42.65% โดยทั้งปีที่แล้ว ด่านสะเดามีปริมาณนักเที่ยวระหว่างประเทศ เดินทางผ่านประมาณ 881,786 คน

หากแยกเป็นนักท่องเที่ยวแต่ละทวีปแล้วพบว่า ครึ่งปีแรกปีนี้ มีปริมาณนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทย ผ่านทางสนามบินสุวรรณภูมิ แยกเป็นชาวเอเชียเดินทางเข้ามาแล้ว 2,278,048 คน ลดลงจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 6.08% จากเดิมที่มี 2,425,508 คน จากทวีปยุโรป รวม 1,465,172 คน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 13.01% จากเดิมที่มีปริมาณ 1,296,550 คน

ปริมาณนักท่องเที่ยวจากทวีปอเมริกา 379,371 คน ลดลงจากเดิมที่มี 382,776 คนหรือ 0.89% จากเอเชียใต้มีปริมาณ 320,950 คน เพิ่มขึ้น 11.59% จากเดิมที่มี 287,615 คน จากโอเชียเนียมีปริมาณ 248,575 คน เพิ่มขึ้น 19.53% จากตะวันออกกลางมีปริมาณ 180,066 คน เพิ่มขึ้น 21.69% จากเดิมที่มี 147,973 คน จากแอฟริกามีปริมาณ 43,316 คน เพิ่มขึ้น 12.33% จากเดิมที่มี 38,561 คน รวมทั้ง 6 เดือนแรกมีปริมาณนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศผ่านทางสุวรรณภูมิ 4,915,498 คน เพิ่มขึ้น 2.69% จากเดิมที่มี 4,786,940 คน

มังกรเปิดน่านฟ้าด่วนปักกิ่ง-เซี่ยงไฮ้ ซื้อตั๋ว-ขึ้นเครื่อง-ถึงที่หมายใน 3 ชม.

Submitted by admin on

หนังสือพิมพ์สากล – จากการที่มีผู้โดยสารเป็นจำนวนมาก ที่บินไปมาระหว่างปักกิ่ง-เซี่ยงไฮ้ จนเกิดเป็นปัญหาต่อคิวยาวเหยียดในทุกขั้นตอนจนผู้โดยสารบ่นอุบ ล่าสุดจีนจึงต้องเปิดเส้นทางด่วน ให้บริการช่องขายตั๋ว ตรวจเอกสาร โหลดสัมภาระ พร้อมประตูขึ้นเครื่องเฉพาะกิจ พร้อมสามารถเปลี่ยนเที่ยวบินได้ในกรณีดีเลย์

ตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคมเป็นต้นไป ผู้โดยสารที่จะขึ้นเที่ยวบินจีนที่บินไปกลับระหว่างปักกิ่ง-เซี่ยงไฮ้ จะมีความสะดวกและรวดเร็วขึ้น จากการเปิดเส้นทางสายด่วนที่จะบินจากปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ในทุกๆครึ่งชั่วโมง

การที่เปิดเส้นทางด่วนนี้ขึ้น จะทำให้ผู้โดยสารที่จะไปยังจุดหมายทั้ง 2 แห่ง สามารถบินได้แทบจะตลอดเวลาที่ไปถึง และสามารถเปลี่ยนไฟลท์ ถ่ายโอนระหว่างสายการบินได้อย่างง่ายดาย นอกจากนั้น ยังมีการจัดเตรียมเคาท์เตอร์จำหน่ายบัตรเฉพาะสำหรับเที่ยวบินดังกล่าว พร้อมเปิดช่องตรวจเอกสาร จุดรอผู้โดยสาร ประตูขึ้นเครื่อง และช่องโหลดสัมภาระเฉพาะให้ด้วย

อนึ่ง ปัจจุบันการบินจากปักกิ่งไปเซี่ยงไฮ้ใช้เวลาราว 1ชั่วโมง 45 นาที ถึง 2 ชั่วโมง แต่ละวันจะมีเที่ยวบินไปกลับราว 20 เที่ยว แต่จากการที่ผู้โดยสารมีเป็นจำนวนมาก จนเป็นปัญหาด้านการซื้อบัตรโดยสาร การตรวจเอกสารที่ต้องต่อคิวยาวเหยียด และทำให้ผู้โดยสารไม่รู้สึกถึงความรวดเร็วจากการโดยสารเครื่องบิน โดยเฉพาะเรื่องที่ถูกตำหนิมากก็คือ เมื่อเที่ยวบินมีการดีเลย์ ก็ไม่สามารถถ่ายโอนระหว่างสายการบินได้

โดยสายการบินที่จะเข้าร่วมในเส้นทางสายด่วนนี้ได้แก่ สายการบินแอร์ ไชน่า, สายการบิน ไชน่า อีสเธิร์น แอร์ไลน์, สายการบิน ไชน่า เซาท์เธิร์น แอร์ไลน์, สายการบินไห่หนัน แอร์ไลน์ และสายการบินซั่งไห่ แอร์ไลน์

คาดว่าหลังจากที่เปิดบริการสายด่วนแล้ว ขั้นตอนทั้งหมดในการเดินทางตั้งแต่การซื้อบัตร ตรวจเอกสาร ขึ้นเครื่อง กระทั่งเดินทางถึงจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัยจะใช้เวลาราว 3 ชั่วโมงเท่านั้น

อนึ่ง ในวันเดียวกัน นอกจากจะมีการประกาศข่าวเส้นทางสายด่วนแล้ว ก็ยังมีการรายงานว่า ในช่วงไฮ-ซีซันของการจำหน่ายตั๋วเครื่องบิน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา สายการบินหลายแห่งในจีน ได้ทยอยขึ้นราคาค่าโดยสาร หรือปรับราคาค่าเชื้อเพลิงการบินขึ้น โดยเฉพาะเส้นทางที่บินไปฮ่องกง และมาเก๊า และเที่ยวบินต่างประเทศ

คาเธ่ย์เน้นเปิดเส้นทางบินใหม่ แนะเร่งเพิ่มศักยภาพสุวรรณภูมิ

Submitted by admin on

คาเธ่ย์ เดินหน้าปั้นดราก้อนแอร์ สยายปีกคลุมภูมิภาคอินโดจีน ผจก.คนใหม่เผย ปลายปีนี้ เปิดเส้นทางจากฮ่องกง มาที่ เสียบเรียบ และ ย่างกุ้งตามลำดับ ระบุยังพร้อมดันไทยเป็นฮับในภูมิภาคอาเซียน แต่รัฐบาลต้องมีความชัดเจนเรื่องสนามบิน ย้ำไม่ควรเปิดใช้ 2 สนามบิน แต่ควรเร่งเพิ่มศักยภาพให้สุวรรณภูมิ

นายแอรอน ชาน ผู้จัดการประจำประเทศไทย สายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิก กำกับดูแล การดำเนินงานของ คาเธ่ย์ แปซิฟิก และ ดราก้อนแอร์ในไทยและกัมพูชา เปิดเผยภายหลังการเข้ามารับตำแหน่งดังกล่าวว่า ในระยะเวลา 3 ปีของการดำรงตำแหน่งนี้ จะเน้นเรื่องการเปิดเส้นทางบิน ให้ครอบคลุมเมืองหลักในกลุ่มประเทศอินโดจีน โดยจะดูความเหมาะสมว่า จะใช้ ดราก้อนแอร์ และ คาเธ่ย์ บินในเส้นทางใดบ้าง

จากผลการศึกษาเบื้องต้น ในส่วนของสายการบินดราก้อนแอร์ คาดว่าเดือนพฤศจิกายนนี้ จะเปิดเส้นทางบิน ฮ่องกง- เสียมเรียบ(กัมพูชา) สัปดาห์ละ 4 เที่ยวบิน และในปี 2551 จะเปิดเส้นทางบิน ฮ่องกง – ย่างกุ้ง (พม่า) กลุ่มเป้าหมายหลัก คือ นักท่องเที่ยวทั่วไป และ นักธุรกิจ ขณะที่สายการบิน คาเธ่ย์ แปซิฟิก ก็มีแผนที่จะเพิ่มเที่ยวบิน เข้ามาประเทศไทยเช่นกัน โดยจะดูจากความต้องการของตลาด

อย่างไรก็ตาม แม้ภาพรวมของประเทศไทยขณะนี้ อยู่ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว แต่ สำหรับคาเธ่ย์ แปซิฟิก ยังคงมองว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประตูสู่ภูมิภาคเอเชีย ทั้งในด้านการค้า และการท่องเที่ยว โดยเฉพาะส่วนที่เชื่อมโยงกับฮ่องกง และ จีนแผ่นดินใหญ่ เห็นได้จากปริมาณ ผู้โดยสารสายการบิน และ ปริมาณการขนส่งสินค้า ที่มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นโอกาสในการสร้างการเติบโตทางธุรกิจให้กับ คาเธ่ย์ฯ และ ดราก้อนแอร์ได้อีกมาก

นายชาน กล่าวต่ออีกว่า สำหรับประเทศไทย การเปิดใช้สนามบิน 2 แห่ง คือ ดอนเมือง และ สุวรรณภูมิ เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพระทำให้ทั้งผู้โดยสาร และ สายการบิน เกิดความไม่สะดวก อีกทั้ง บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. มีการปรับขึ้นราคาค่าจอดเครื่องบิน(แลนด์ดิ้งฟี) ค่าภาษีสนามบิน(สำหรับผู้โดยสาร) ขณะที่ประเทศอื่นๆในละแวกใกล้เคียง และ ประเทศคู่แข่ง เขากลับให้เป็นอินเซนทีฟ เพื่อดึงสายการบินเข้ามาใช้บริการ

วันทูโกปรับค่าตั๋วอีก200บาทก.ย.นี้ เพิ่มเส้นบินสกัดไทยแอร์เอเชียผูกขาด

Submitted by admin on

วันทูโกสุดอั้น เล็งขยับขึ้นค่าตั๋วโดยสารอีก 200 บาท ต่อที่นั่ง กันยายนนี้ พร้อมเปิดเส้นทางบิน สุวรรณภูมิ ออกไป 3 เส้นทางในประเทศ เชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ รับผู้โดยสารต่อเครื่อง กันไทยแอร์เอเชียผูกขาด คุยปีหน้า โตก้าวกระโดด ส่วนปีนี้รายได้ตามเป้า 2.5 พันล้านบาท

นายอุดม ตันติประสงค์ชัย ประธานกรรมการ สายการบิน วัน ทู โก เปิดเผยว่า ในเดือนกันยายนนี้ บริษัท จะปรับขึ้นราคาตั๋วเครื่องบินเส้นทางในประเทศ เพิ่มอีก 200 บาทต่อที่นั่ง จากปัจจุบันตั๋วเครื่องบินของ วัน ทู โก จะมีราคาอยู่ที่ 1,750 บาท ต่อที่นั่ง ทั้งนี้เป็นการปรับ เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนที่แท้จริง เพราะปัจจุบัน ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงได้ปรับขึ้นต่อเนื่อง แต่บริษัทยังไม่มีการปรับขึ้นค่าตั๋วโดยสาร ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเป็นช่วงโลว์ซีซั่น

“เราตัดสินใจขึ้นค่าตั๋วเครื่องบิน ไม่ได้ปรับค่าธรรมเนียมน้ำมัน เพราะยุ่งยากกว่า คอนเซปต์ของเรา จะเป็นราคาง่ายๆ จ่ายสบายๆ ไม่ซับซ้อน หมกเม็ด”

นอกจากนั้น ในวันที่ 15 กันยายนนี้ วัน ทู โก ยังเตรียมเปิดเที่ยวบินในประเทศ เส้นทางจากสนามบิน สุวรรณภูมิ ไปยัง จังหวัดเชียงใหม่ ,ภูเก็ต และ หาดใหญ่ รวม 3 เดสติเนชั่น ประมาณ 10 เที่ยวบิน จากปัจจุบัน ที่สายการบิน วัน ทู โก จะบินออกจากสนามบินดอนเมือง ออกไปยังจังหวัดต่างๆ เพราะต้องการเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้โดยสาร ที่บินระหว่างประเทศ และต้องใช้บริการต่อเครื่องบิน เพราะปัจจุบัน มีเพียง ไทยแอร์เอเชียเพียงสายการบินเดียว ที่บินอยู่สนามบินสุวรรณภูมิ

การเพิ่มเที่ยวบินครั้งนี้ จะทำให้ วัน ทู โก มีเที่ยวบินเฉพาะเส้นทางในประเทศกว่า 50 เที่ยวต่อวัน จากปัจจุบันบินอยู่ 42 เที่ยวบินต่อวัน นอกจากนั้น แผนครึ่งปี บริษัทยังเตรียมเปิดเส้นทางบินไปต่างประเทศ อาทิ มาเลเซีย สิงคโปร์ พนมเปญ และ เส้นทางอีก 3 เส้นทาง โดยสายการบิน โอเรียนท์ไทย คือ เนปาล เฉินตู กวางเจา

วันทูโกประกาศชนแอร์เอเชีย เปิดศึกเส้นทางบิน-ชูราคาถูก

Submitted by admin on

วัน ทู โก ประกาศชัด ขอเป็นคู่แข่งกับ สายการบิน ไทย แอร์เอเชีย ทุกเส้นทาง ประเดิมเปิดศึกเส้นทางบินต่างประเทศ สิงหาคมนี้เปิดบินไปมาเลเซีย ตามด้วยเส้นทางเฉินตู ด้านกลยุทธ์ชูจุดขายขายตั๋วราคาถูกเช่นกัน แต่เงื่อนไขชัดเจนกว่า ชี้ต้องการสร้างข้อเปรียบเทียบให้ลูกค้าได้เห็น

นายอุดม ตันติประสงค์ชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทวัน ทู โก จำกัด ผู้ให้บริการสายการบินราคาประหยัด วัน ทู โก เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ บริษัทจะรุกตลาดด้วยการเปิดเส้นทางบินไปต่างประเทศ ภายใต้การให้บริการของสายการบิน วัน ทู โก โดยเดือนกันยายนนี้ จะเปิดเส้นทาง กรุงเทพฯ-มาเลเซีย วันละ 1 เที่ยวบิน และเดือนตุลาคมจะเปิดเที่ยวบินกรุงเทพฯ-เฉินตู ประเทศจีน

ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการกำหนดราคาตั๋วโดยสาร ว่าจะอยู่ที่ราคาเท่าใด คาดว่าเร็วๆ นี้จะได้ข้อสรุป โดยเป็นราคาที่สมเหตุสมผล และจูงใจให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการ นอกจากนั้นยังเร่งพัฒนาระบบการจำหน่ายตั๋วโดยสาร เพื่อให้ครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้า เพิ่มความสะดวกในการให้บริการ ล่าสุดได้จับมือกับ บริษัท อี เพย์ ซึ่งมีจุดบริการกว่า 3-4 พันแห่งทั่วประเทศ เพื่อเป็นผู้แทนจำหน่ายตั๋วโดยสารให้แก่สายการบิน วัน ทู โก

นายอุดม กล่าวในส่วนของการขยายเส้นทางบินไปต่างประเทศว่า จะเน้นเปิดเส้นทางบินในเส้นทางที่ สายการบินไทยแอร์เอเชียให้บริการอยู่แล้ว เพราะต้องการแข่งขันกับสายการบินนี้โดยเฉพาะ โดยต้องการเป็นทางเลือกให้แก่ผู้โดยสาร ที่ต้องการเดินทางในเส้นทางนั้นๆ ที่สำคัญ ต้องการให้ผู้โดยสารเห็นความแตกต่าง ของการให้บริการของทั้งสองสายการบิน ทั้งเรื่องการบริการลูกค้า และราคาตั๋วโดยสาร

ด้านกลยุทธ์การทำตลาดก็เช่นกัน บริษัทจะนำกลยุทธ์จำหน่ายตั๋วโดยสารราคาถูก ของสายการบินไทยแอร์เอเชียมาปรับใช้ ด้วยการจัดรายการส่งเสริมการขายจำน่ายตั๋วเครื่องบินราคาถูก แต่จะมีความชัดเจนกว่า ในเรื่องของเงื่อนไข และจำนวนว่าแต่ละเที่ยวบินจะมีตั๋วราคาถูกกี่ที่นั่ง และเงื่อนไขจะแจ้งให้ผู้โดยสารทราบเลยว่า ตั๋วราคาเท่าใดและต้องจ่ายค่าอะไรเพิ่มอีกบ้าง รวมแล้วเป็นเงินที่ผู้โดยสารจะต้องจ่ายจริงเท่าใด

Board refuses to shorten contract

Submitted by admin on

The board of Airports of Thailand has rejected its management's proposal to shorten the Suvarnabhumi airport security service contract with the Loxley-ICTS consortium, to avoid legal troubles. AOT board chairman Gen Saprang Kalayanamitr said after a board meeting yesterday that the board could not approve the management's proposal to halve the consortium's service contract to five years in response to its substandard security service, as the consortium has made it clear it disagreed with the plan.

The board did not want a legal dispute as the consortium had acquired the contract legally, he said.

Gen Saprang denied the board was protecting the contractor. He said the board was aware of the investment burden taken on by the consortium and would see to justice for both sides.

But he insisted the security service provided by the consortium was still poor and needed to be improved.

Chirmsak Pinthong, spokesman for the AOT board, said the consortium fielded 1,200 guards a day, which was short of the 2,000 stated in the contract.

Their service consisted of two shifts, each consisting of 600 guards who must work as long as 12 hours a day.

The board suspects that this arrangement, instead of three eight-hour shifts, may affect service quality.

The board believed that if the consortium was not able to improve its service in line with the contracted standards, the AOT management should terminate the contract instead of shortening it, Mr Chirmsak said.

However, a source said the board feared such a move could land it in legal trouble with the consortium.

Also, Mr Chirmsak said the board had yesterday resolved to grant 200 million baht to the army, which had sought financial support for its procurement of anti-explosives equipment for use in the deep South. AOT will also lend some of its explosives detectors at Suvarnabhumi and other airports to the army for use in the troubled region.

Women travellers on the rise in Thailand

Submitted by admin on

Singapore (dpa) - Women travellers are on the rise particularly to Thailand, Hong Kong, Singapore and the Indonesian island of Bali, a survey said on Friday.

Four out of every 10 Asia-Pacific trips are made by women compared to one in 10 in the mid-1970s, said the 2007 MasterCard survey.

It also showed that 42 per cent of women queried had travelled in the last 12 months, compared with 37 per cent of men.

Agoda Company, an independent online travel website and hotel booking firm, cited a 70 per cent hike in the number of bookings made to Thailand, Hong Kong, Singapore and Bali since July 2006.

"As this trend matures, it will be increasingly important for online merchants to develop travel products and websites that appeal to women," said Agoda chief operating officer Robert Rosenstein.