รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กำชับกรมการขนส่งทางบก เตรียมแผนรองรับการเดินทางของประชาชน ในช่วงเทศกาลวันเข้าพรรษา โดยจัดหารถรับ-ส่งผู้โดยสาร ระหว่างสถานีขนส่งผู้โดยสาร กับหมู่บ้านในท้องถิ่นห่างไกลให้เพียงพอ พร้อมคุมเข้ม ความปลอดภัยโดยรอบสถานีขนส่งผู้โดยสารตลอด 24 ชั่วโมง

พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงมาตรการรองรับการเดินทางของประชาชน ระหว่างวันที่ 28-31 กรกฎาคม 2550 ซึ่งเป็นวันหยุดต่อเนื่องว่า ได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบก เตรียมแผนรองรับการเดินทาง ให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชน ในการเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ ทั้งเที่ยวไป และเที่ยวกลับ ตั้งแต่วันที่ 27-31 กรกฎาคม 2550 ตลอด 24 ชั่วโมง และกำชับ ให้จัดหารถรับ-ส่งผู้โดยสาร ระหว่างสถานีขนส่งผู้โดยสาร กับหมู่บ้านในท้องถิ่นห่างไกลให้เพียงพอด้วย นอกจากนี้ ได้สั่งคุมเข้ม ให้มีการตรวจความพร้อมของตัวรถโดยสารสาธารณะ และพนักงานขับรถสาธารณะ และได้กวดขันการอยู่เวรยาม และจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สารวัตรทหาร มาดูแลรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเพิ่มการตรวจตราความเรียบร้อย ในบริเวณโดยรอบสถานีขนส่งผู้โดยสาร และกำชับในการสังเกตุกระเป๋า หรือวัตถุสิ่งของ ที่วางทิ้งไว้ในลักษณะผิดปกติวิสัย รวมทั้งได้ให้สถานีขนส่งผู้โดยสารทุกแห่ง กำหนดมาตรการด้านยานพาหนะภายในสถานีฯ เพื่อความปลอดภัย และความสะดวกในการเดินทางของผู้ใช้บริการด้วย ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นสิ่งผิดปกติ หรือมีข้อร้องเรียน ติดต่อได้ที่ ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ กรมการขนส่งทางบก โทรศัพท์หมายเลข 1584 เบอร์เดียวทั่วประเทศ ตลอด 24 ชั่วโมง

A working group of Airports of Thailand (AoT) will today ask the board to shorten the contract of the Loxley-ICTS consortium for security services at Suvarnabhumi airport, due to alleged inefficiency. After evaluating the security service at the airport, the panel, led by Suvarnabhumi deputy director Chaturongkapol Sodmanee, has recommended to the AoT board that the 10-year contract be cut to three years first and then extended twice, each time for one year, according to a source at the airport agency.

It says AoT should later stop the service by the consortium and stage a new bidding contest to find another contractor, the source added.

Although the consortium has improved its service, it was still not good enough, the working group found.

The panel met representatives of the Loxley-ICTS consortium on July 16 and asked the firm to seek the immediate termination of its own contract.

When the representatives rejected the proposal, the AoT panel suggested a shortened service time.

The consortium complained that the shortened deal would affect its investment plan.

The source admitted that such a change in the contract would need the consent of both partners.

Karn Thongyai, managing director of Asia Security Management Co, which is part of the Loxley-ICTS consortium, declined to comment on the AoT working group's proposal.

He said the firm would wait for the AoT board's decision today before making any comment.

Mr Karn said that his consortium had done its best, followed all directives of AoT to improve the security service and accepted new evaluation criteria by the airport agency.

ผอ.สุวรรณภูมิระบุ จะเร่งซ่อมแซมหลังคารั่วของอาคารที่พักผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิ ให้แล้วเสร็จภายในกลางเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อป้องกันปัญหาน้ำรั่วซึมภายในอาคาร โดยในขณะนี้ซ่อมเสร็จเรียบร้อยแล้วไปกว่า 40 จุด

นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้มีการซ่อมแซมหลังคากระจกของตัวอาคาร ผู้โดยสาร และอาคารเทียบเครื่องบิน ที่มีการรั่วซึมบริเวณรอยเชื่อมต่อเสร็จไปแล้วกว่า 40 จุด และจะซ่อมแซมจุดที่เหลืออีกประมาณ 20 จุด ให้แล้วเสร็จได้ทัน ภายในกลางเดือนสิงหาคมนี้อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากในช่วงนี้ เป็นช่วงที่มีฝนตกหนักกว่าปกติ ทั่วทั้งกรุงเทพมหานคร อาจทำให้มีน้ำฝนรั่วซึมลงมา ภายในพื้นที่อาคารผู้โดยสาร ตามรอยรั่วที่ยังไม่ได้มีการซ่อมแซม ซึ่งอาจทำให้กระทบกับการให้บริการผู้โดยสารได้ จึงได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจพื้นที่ต่าง ๆ หากพบว่ามีน้ำหยดที่พื้น จะเร่งทำความสะอาดทันที และหลังจากที่ฝนหยุดตก จะมีเจ้าหน้าที่ไปซ่อมแซมอย่างเร่งด่วน

นายเสรีรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังคากระจกของอาคารผู้โดยสาร และอาคารเทียบเครื่องบิน ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีพื้นที่มากกว่า 150,000 ตารางเมตร ซึ่งการก่อสร้างหลังคากระจก จะมีการเชื่อมต่อด้วยซิลิโคน โดยได้ก่อสร้างแล้วเสร็จก่อนหน้านี้ประมาณ 2-3 ปี ดังนั้น ซิลิโคนบางจุด อาจเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน และ ทอท.ได้มีการสำรวจจุดที่รั่วซึมบนหลังคาแล้ว ตั้งแต่ก่อนหน้าฝน และพบว่า มีรอยรั่วที่ต้องเร่งซ่อมแซมทั้งหมดกว่า 60 จุดด้วยกัน และได้เริ่มทำการซ่อมแซม ตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

อธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ (ขอ.) เตรียมออกประกาศควบคุม และระเบียบ สำหรับผู้ให้บริการธุรกิจการบินในประเทศฉบับใหม่ ภายในเดือนนี้ เพื่อแก้ปัญหาสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์) ลดราคากระหน่ำ แต่มีผู้ร้องเรียนว่า ไม่สามารถซื้อตั๋วโดยสารได้จริง โดยหลังจากประกาศนี้มีผลบังคับใช้ สายการบินทุกแห่ง จะต้องส่งแผนโปรโมชั่นให้ ขอ.มีส่วนในการพิจารณาอนุมัติด้วย

นายชัยศักดิ์ อังค์สุวรรณ อธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ (ขอ.) กล่าวว่า ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ กรมการขนส่งทางอากาศ จะทำการออกประกาศควบคุม และระเบียบ สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจการบินในประเทศฉบับใหม่ หลังจากในขณะนี้ ได้ทำการส่งร่าง เพื่อให้สายการบินแต่ละแห่งรับทราบ หรือแสดงความเห็นโต้แย้ง ก่อนประกาศจะมีผลบังคับใช้ต่อไป

สำหรับเนื้อหาสาระสำคัญของประกาศฉบับใหม่ จะมีรายละเอียดที่ควบคุมถึงการทำแผนการตลาด โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดอัตราค่าโดยสาร ซึ่งจะกำกับให้สายการบินทุกแห่ง ต้องส่งแผนการตลาด หรือการทำโปรโมชั่นต่าง ๆ ให้กรมการขนส่งทางอากาศ พิจารณาอนุมัติด้วย โดยจะทำให้กรมฯ มีอำนาจในการไม่อนุมัติ ให้สายการบินใช้แผนการตลาดดังกล่าว หากเห็นว่าแผนไม่เหมาะสม หรือส่งผลกระทบต่อผู้ใช้บริการ หรือส่งผลกระทบต่อการแข่งขันอย่างไม่เป็นธรรมในธุรกิจการบิน

“เนื้อหาสาระของประกาศฉบับใหม่นี้ จะควบคุมถึงแผนการตลาด ซึ่งเมื่อนำมาใช้ จะกำหนดด้วยว่า การเสนอขายตั๋วโดยสารในราคาพิเศษ จะต้องตรวจสอบได้ว่า มีตั๋วราคาดังกล่าวจำหน่ายจริง มีกี่ใบในแต่ละเที่ยวบิน และต้องประกาศเรื่องเหล่านี้ ให้สาธารณชนทราบข่าวสารชัดเจนด้วย หากมีการกระทำที่เข้าข่ายหลอกลวงผู้บริโภค หรือทำให้ผู้รับบริการได้รับความเดือดร้อน ก็จะมีบทลงโทษสูงสุด ถึงขั้นพักใบอนุญาตประกอบการด้วย” นายชัยศักดิ์ กล่าว

นอกจากนี้ สำหรับประเด็นที่จะดูแลให้เกิดการแข่งขันอย่างเป็นธรรม ในธุรกิจการบินนั้น การเสนอแผนให้กรมการขนส่งทางอากาศพิจารณา จะพิจารณาว่า การลดราคาแต่ละครั้ง จะส่งผลเสียหายในลักษณะทำลายอุตสาหกรรมการบินหรือไม่ด้วย

สำหรับความคืบหน้า ในการออกใบอนุญาตการบินอย่างเป็นทางการ (Aerodrom Certificate) ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมินั้น ขณะนี้การออกใบอนุญาตที่จะกำหนดไว้ใน พ.ร.บ.การขนส่งทางอากาศฉบับใหม่ ได้ผ่านการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และส่งกลับมาให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาแล้ว โดยกรมการขนส่งทางอากาศ จะพยายามให้การออกใบอนุญาตแล้วเสร็จในรัฐบาลชุดนี้

ผอ.สุวรรณภูมิยืนยัน แก้ไขเครื่องซีทีเอ็กซ์ 9000 ในอาคารผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิเสร็จสมบูรณ์แล้ว ตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา และได้มีการจัดเตรียมมาตรการป้องกัน เพื่อมิให้ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นอีก

นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า จากการที่เมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา การทำงานของเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด หรือเครื่องซีทีเอ็กซ์ 9000 เกิดปัญหาขัดข้องขึ้น จากการติดไวรัสนั้น ปัจจุบัน ปัญหาดังกล่าวได้รับการแก้ไขเสร็จเรียบร้อยแล้ว และระบบมีความสมบูรณ์ สามารถทำงานได้ตามปกติ ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด

“นายกBAR” ระบุ แผน 5 ปี สายการบินต่างประเทศ เมินบรรจุแผนเพิ่มเที่ยวบินมาไทย หันบินเข้า จีน อินเดีย เวียดนาม ทดแทน เหตุสุวรรณภูมิเก็บค่าแลนด์ดิ้งแพง ฉะปัญหา 2 สนามบินในไทย ทำเอาผู้โดยสารเสียเวลาต่อเครื่อง จี้รัฐบาล และ AOT เร่งแก้ปมปลดล็อกปัญหา หวั่นไทยหมดหวังเป็นฮับในภูมิภาค

นายไบรอัน ซินแคลร์-ทอมสัน (Brian Sinclair-Thompson) นายกสมาคมธุรกิจการบิน (Board of Airline Representatives หรือ BAR) ประเทศไทย และ ผู้จัดการทั่วไป สายการบิน สวิส ซึ่งมีสมาชิก คือ สายการบินต่างประเทศ ที่มีเส้นทางบินเข้ามาในประเทศไทย กล่าวว่า ในแผนการดำเนินงานธุรกิจ 5 ปี ของสมาชิก ส่วนใหญ่แล้ว จะไม่มีแผนที่จะเพิ่มเที่ยวบิน เพื่อบินเข้ามาในประเทศไทย โดยเฉพาะที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ทั้งนี้เพราะ สนามบินสุวรรณภูมิ มีการปรับค่าธรรมเนียมขึ้น-ลงท่าอากาศยาน(แลนด์ดิ้งฟี) ขึ้นอีก 35% ส่งผลให้ ค่าแลนด์ดิ้งของสนามบินสุวรรณภูมิ แพงกว่าสนามบินอื่นๆ ในประเทศใกล้เคียง ที่เป็นคู่แข่งขัน หากสายการบินใดบินเข้ามา ก็จะมีต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้นด้วย ซึ่งในสถานการณ์ธุรกิจการบิน ที่มีการแข่งขันสูงอยู่แล้ว ประกอบกับต้นทุนค่านำมันที่แพงขึ้น ทุกสายการบินจะต้องยอมประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนอื่นๆ เกือบทุกสายการบินจึงมีนโยบายตรงกันว่า จะไม่บินเข้ามาประเทศไทย

“ในส่วนของสายการบินสวิส ซึ่งปัจจุบันบินเข้าสุวรรณภูมิสัปดาห์ละ 6 เที่ยวบิน ซึ่งจากดีมานด์ของลูกค้า บริษัทฯสามารถเพิ่มเป็นสัปดาห์ละ 7-10 เที่ยวบินก็ได้ แต่เราไม่ทำ เพราะค่าแลนด์ดิ้งที่นี่สูงมาก จึงหันไปเพิ่มเที่ยวบิน ไปลงที่กรุงเดลี ประเทศอินเดียแทน ขณะที่สมาชิก Bar เท่าที่คุยกัน สรุปว่า หากจะเลือกบินเข้ามาในภูมิภาคนี้ คงเลือกบินลงที่กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเขาให้อินเซนทีฟเป็นสัญญาฟรีค่าแลนด์ดิ้งถึง 5 ปี หรืออาจบินไปลงที่จีน อินเดีย หรือ เวียดนาม ก็จะได้อินเซนทีฟที่ดีกว่า”

นายก BAR ยังกล่าวอีกว่า จะเห็นได้ว่า สายการบินใหม่ๆ ที่เปิดเส้นทางบินเข้ามาประเทศไทย ส่วนใหญ่ เป็นสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์) และ สายการบินจากกลุ่มประเทศในตะวันออกกลาง ดังนั้นนักท่องเที่ยวกลุ่มที่เพิ่มขึ้นมาในประเทศไทยขณะนี้ จึงเป็นนักท่องเที่ยวทั่วไป และ กลุ่มเมดิคัล ทัวร์ริสซึม แต่ นักท่องเที่ยวระดับบน และ กลุ่มนักธุรกิจจะลดน้อยลง เพราะมีเที่ยวบินเข้ามาประเทศไทยน้อย ทำให้คนกลุ่มนี้ไม่ได้รับความสะดวก

พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวยอมรับว่า เป็นห่วงต่อความล่าช้า ของโครงการรถไฟฟ้า เชื่อมต่อท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (แอร์พอร์ต ลิงก์) ที่ขณะนี้ ต้องรอการตรวจสอบข้อเท็จจริ งจากคณะทำงาน ที่มีนายสุรชัย ธารสิทธิพงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน ว่าจะพิจารณาต่อสัญญาให้ผู้รับเหมาอีก 460 วัน หรือไม่ ตามที่ผู้รับเหมาก่อสร้างร้องขอมา หลังจากโครงการเสร็จไม่ทัน ตามสัญญาก่อสร้าง 990 วัน โดยในส่วนกระทรวงคมนาคม ยืนยันว่า จะพิจารณาเรื่องนี้อย่างเต็มที่ เพื่อผลประโยชน์ของหน่วยงาน, เจ้าของโครงการ และประเทศชาติ

ส่วนความคืบหน้าการปรับปรุงสนามบินสุวรรณภูมิ หลังได้จี้ให้ผู้บริหารสนามบินรีบแก้ปัญหา พบว่า มีความพอใจมากขึ้น เพราะงานหลายอย่างเดินหน้าอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะการสร้างห้องน้ำ และการหาบริษัทที่ปรึกษา เพื่อตรวจสอบรอยแตกร้าว รันเวย์ และแท็กซี่เวย์ ที่ทุกอย่างจะแล้วเสร็จใน 5 เดือน นับจากนี้

สำหรับผลงานในภาพรวมของทุกหน่วยงาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยอมรับว่า มีความพอใจมากขึ้น เป็นไปตามที่มอบหมายไว้ ทั้งเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณที่ล่าช้าจากไตรมาสที่ 2 ขณะนี้ ได้เร่งให้ทุกหน่วยงาน เบิกจ่ายให้ทัน ในสิ้นปีงบประมาณเดือนกันยายนนี้ ซึ่งจะเบิกจ่ายได้กว่าร้อยละ 80 แต่ไม่ถึงร้อยละ 90 ตามที่ตั้งเป้าไว้ ขณะที่ การประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง, สีม่วง และสีน้ำเงิน ยังเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้

นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ขณะนี้ ได้เร่งแก้ไขปัญหาโดยรวม ที่เกิดขึ้นภายในอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการ รวมถึงพนักงานของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องที่ทำงานในท่าอากาศยาน ซึ่งขณะนี้ พนักงานบริเวณเคาน์เตอร์เช็คอิน และบริเวณเคาน์เตอร์ด่านตรวจคนเข้าเมืองของอาคารผู้โดยสารชั้น 4 ประสบปัญหาแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ ที่ส่องมากระทบ ซึ่งทำให้พนักงานทำงานเกิดความร้อน ไม่สะดวกต่อการทำงาน จึงเร่งติดสติ๊กเกอร์กรองแสง ความหนาร้อยละ 50 ติดตั้งบนกระจกด้านหลังเคาน์เตอร์ด่านตรวจคนเข้าเมือง ทั้งฝั่งด้านทิศตะวันตก และตะวันออกของอาคารผู้โดยสารชั้น 4 เป็นรูปภาพสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดต่างๆ เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวประเทศไทยอีกทางหนึ่งด้วย คาดว่าจะติดตั้งแล้วเสร็จ ภายในกลางเดือนสิงหาคมนี้

ส่วนกรณีป้ายภายในอาคารผู้โดยสาร รวมถึงป้ายบอกทางหนีไฟ ที่มีไม่ชัดเจนหรือเล็กไปนั้น ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ดำเนินการปรับปรุงแก้ไข โดยจัดทำป้ายชั่วคราว และป้ายถาวรเพิ่มเติมจำนวนหนึ่งแล้ว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา และรวบรวมข้อมูลในการปรับปรุงแก้ไขป้ายทั้งระบบ เพื่อให้เป็นมาตรฐานมากขึ้นด้วย

“พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ” ยอมรับแผนศึกษา ใช้เที่ยวบินระหว่างประเทศที่สนามบินดอนเมือง คู่กับสุวรรณภูมิยังไม่คืบหน้า พร้อมขอเวลาอีก 2 เดือน ก่อนสรุปความชัดเจน ย้ำต้องดูผลประโยชน์ของ ทอท. และผลกระทบของประชาชนคู่กัน

ธุรกิจสายการบินชักแถวอัดโปรโมชั่นลดราคาตั๋วโดยสาร 40-50% ชูกลยุทธราคา นำทางการแข่งขันในยุคเศรษฐซบ จากพิษการเมือง และค่าเงินบาท กดโลว์ซีซั่นเมืองไทยปีนี้แย่กว่าปีก่อนๆถึง 20% คาเธ่ย์เผยปีนี้ ผู้โดยสารขาออกจากประเทศไทยถดถอยหนักเพียงประเทศเดียวในภูมิภาค เหตุคนชะลอจับจ่าย วอนทุกสายการบิน และ หน่วยงานรัฐเร่งจัดแคมเปญกระตุ้นท่องเที่ยวให้คึกคัก ขณะที่น้องใหม่ เจ็ทแอร์เวย์จากอินเดียเผย คนในวงการยอมรับ โลวซีซั่นปีนี้แย่ที่สุดในรอบ 5 ปี

ใครจะคิดว่าธุรกิจสายการบินที่กำลังไปได้สวย ภายใต้นโยบายเปิดน่านฟ้าเสรี ที่เติบโตควบคู่ไปกับเศรษฐกิจ ต้องมาสะดุดเพียงประเทศไทยแห่งเดียว จนต้องทำให้ทุกสายการบินต้องหนีตาย ด้วยการจัดแคมเปญโปรโมชั่น อย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน เพื่อพยุงธุรกิจให้อยู่รอด โดยเฉพาะช่วงโลว์ซีซั่นปีนี้ ที่เกือบทุกธุรกิจต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าสาหัสสากัน โดยหวังว่าปีหน้าฟ้าใหม่ และรัฐบาลชุดใหม่ จะเข้ามาฟื้นเศรษฐกิจให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง

ปัจจัยสำคัญของการเปิดเส้นทางบินในแต่ละครั้ง จะต้องคำนวณผู้โดยสารทั้งเที่ยวไปและเที่ยวกลับ เพราะหากมีเพียงดีมานด์จากเที่ยวใดเที่ยวหนึ่ง คงไม่คุ้มกับค่าน้ำมัน ซึ่งขณะนี้ถือเป็นต้นทุนที่สำคัญที่สุด หรือมีสัดส่วนมากกว่า 40% ของการทำธุรกิจนี้