ทอท.เซ็นจ้าง PMC เริ่มสุวรรณภูมิเฟส 2 มูลค่า 6.2 หมื่น ล. มั่นใจเร่งก่อสร้างเสร็จปี 60 ตามเป้า คาดใช้เงินกู้ในประเทศ 20% “อนิรุทธิ์” เผยปีนี้ผู้โดยสารทะลุ 51 ล้านคน ตั้งเป้ากรกฎาคมย้ายเที่ยวบินกลับดอนเมืองช่วยลดแออัดได้ 8 ล้านคน พร้อมเดินหน้าเฟส 3 เล็งทบทวนสร้างอาคารในประเทศหลังมีนโยบายใช้ดอนเมือง

วันนี้ (30 พ.ค.) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ได้ลงนามในสัญญาว่าจ้างกลุ่มบริษัท EPM Consortium ที่ปรึกษาบริหารจัดการโครงการ (Project Management Consultant : PMC) โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 (ปีงบประมาณ 2554-2560) วงเงิน 809.9 ล้านบาท รวมระยะเวลา 70 เดือน โดยว่าที่ เรืออากาศโท อนิรุทธิ์ ถนอมกุลบุตร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. เปิดเผยว่า PMC จะเริ่มงานตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนนี้ โดย ทอท.จะเจรจาให้ปรับลดเวลาในการทำงานลงในบางขั้นตอนที่สามารถใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้เร็วขึ้นได้ เช่น การทบทวนแบบเบื้องต้น การจัดทำข้อกำหนด การออกแบบ นอกจากนี้ งบลงทุนเฟส 2 จำนวน 62,500 ล้านบาทจะใช้งบประมาณของ ทอท. ประมาณ 80% เงินกู้ภายในประเทศ 20% ซึ่งมีขั้นตอนน้อยกว่ากู้ต่างประเทศ จึงมั่นใจว่าการก่อสร้างจะเริ่มในปี 2558 และเปิดให้บริการได้ในปี 2560 ตามเป้าหมายแน่นอน

บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้เปิดตัว “การบินไทยสมายล์” ซึ่งเป็นบริการใหม่โดยหน่วยธุรกิจภายใต้บริษัทการบินไทย เนื่องในโอกาสที่บริษัทดำเนินกิจการครบรอบ 52 ปี โดยนายวรเนติ หล้าพระบาง กรรมการผู้จัดการหน่วยธุรกิจการบินไทยสมายล์ เปิดเผยว่า การบินไทยสมายล์จะเปิดให้บริการเที่ยวบินแรกในวันที่ 7 กรกฎาคม 2555 เส้นทางกรุงเทพฯ-มาเก๊า ให้บริการ 2 เที่ยวบินต่อวัน โดยตั้งเป้าผลประกอบการในปี 2555 (ก.ค.-ธ.ค.) จะมีรายได้ประมาณ 800-1,000 ล้านบาท มีอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ย 72.2 % ให้บริการ 5 จุดบิน ความถี่ 90 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และคาดว่าจะมีจำนวนผู้โดยสารใช้บริการประมาณ 3 แสนคน ส่วนปี 2556 คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 4,000 ล้านบาท ให้บริการเพิ่มเป็น 9 จุดบิน ความถี่เพิ่มเป็น 150 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และคาดว่าจะเริ่มมีกำไรเล็กน้อย

ทั้งนี้ ในปีแรกจะมีเครื่องบินให้บริการ 4 ลำ เป็นเครื่องบินแอร์บัส A320 ขนาด 174 ที่นั่ง โดยเครื่องบินลำแรกจะรับมอบในวันที่ 23 มิถุนายนนี้ ลำที่ 2 และ 3 รับมอบในเดือนสิงหาคม ลำที่ 4 รับมอบเดือนกันยายน ส่วนปี 2556 จะรับมอบอีก 2 ลำในเดือนมกราคม และมีนาคม ส่วนเส้นทางภายในประเทศ เช่น กรุงเทพฯ-กระบี่ จะเข้าไปบินแทนการบินไทย จำนวน 4 เที่ยวบินต่อวัน เนื่องจากเป็นช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว (Low Season) ไปจนถึงเดือนตุลาคม จากนั้นจะเพิ่มเป็น 5 เที่ยวบินต่อวัน กรุงเทพฯ-เชียงราย 2 เที่ยวบินต่อวัน กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ 2 เที่ยวบินต่อวัน กรุงเทพฯ-ภูเก็ต และเชียงใหม่-ภูเก็ต เป็นต้น

นางกฤตยา สุมิตนันท์ รองผู้ว่าการ (บริหาร) รักษาการแทนผู้ว่าการ รฟม. เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2555 ระหว่างวันที่ 11-18 เมษายน 2555 รฟม.จะเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชน โดยจัดวางอัตรากำลังชุดปฏิบัติการกู้ภัย และชุดปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยกระจายกำลังครอบคลุมพื้นที่ของเขตระบบรถไฟฟ้า จัดชุดสุนัขตรวจค้นพัสดุภัณฑ์ระเบิด รฟม. (K-9) เพื่อตรวจสอบและค้นหาวัตถุต้องสงสัยในเขตระบบรถไฟฟ้า จัดชุดพิสูจน์ทราบวัตถุต้องสงสัยในพื้นที่เขตระบบรถไฟฟ้า (EOD) จัดพนักงานรักษาความปลอดภัยปฏิบัติงานรักษาเขตทางตรวจแนวเขตทางระบบรถไฟฟ้า เพื่อตรวจตรา ป้องกันและปราบปรามการเกิดเหตุพื้นที่บริเวณรอบนอกสถานีรถไฟฟ้าทุกแห่ง

ทั้งนี้ การระดมกำลังจะให้ความสำคัญต่อจุดเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนอื่น เช่น สถานีสีลม สถานีสุขุมวิท สถานีสวนจตุจักร สถานีกำแพงเพชร และสถานีบางซื่อ ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะปฏิบัติการตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อให้ผู้ใช้บริการมีความมั่นใจในระบบรักษาความปลอดภัยเมื่อใช้บริการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล นอกจากนี้ รฟม.ได้เพิ่มมาตรการความปลอดภัยสำหรับอาคารจอดรถทั้ง 2 แห่ง ได้แก่ อาคารจอดรถ 9 ชั้น สถานีลาดพร้าว และอาคารจอดรถ 3 ชั้น สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย โดยขอความร่วมมือผู้ใช้บริการเปิดท้ายรถยนต์เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบค้นหาสิ่งผิดปกติ

นอกจากนี้ รฟม.จะเพิ่มความถี่และจัดขบวนรถไฟฟ้าเพิ่มในการให้บริการระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2555 เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการในการเชื่อมต่อการเดินทางกับระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ อีกด้วย

นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติร้อยละ 61.4 จะเข้าร่วมเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ระบุอยากเล่นสงกรานต์ที่ถนนข้าวสารมากที่สุด แต่ยังกังวลเรื่องความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน

ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ พบว่าสิ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวกรุงเทพฯ มากที่สุดอันดับแรก คือ โบราณสถาน และโบราณวัตถุ (ร้อยละ 33.2) รองลงมาคือ วัฒนธรรมประเพณี และศิลปะพื้นบ้าน (ร้อยละ 19.8) และแหล่งชอปปิ้ง (ร้อยละ 16.4)

เมื่อสอบถามนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติว่าจะเข้าร่วมเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึงหรือไม่ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ร้อยละ 61.4 ระบุว่าจะเข้าร่วม โดยสถานที่ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติระบุว่าจะไปร่วมงานมากที่สุดอันดับแรก คือ ถนนข้าวสาร (ร้อยละ 14.7) รองลงมาคือ เชียงใหม่ (ร้อยละ 14.2) พัทยา (ร้อยละ 8.5) ขณะที่ร้อยละ 15.2 ระบุว่าจะไม่เข้าร่วม และร้อยละ 23.4 ระบุว่าไม่ทราบข้อมูลเกี่ยวกับเทศกาลสงกรานต์

ทั้งนี้ เมื่อถามนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติถึงสิ่งที่กังวลมากที่สุดหากเข้าร่วมเทศกาลสงกรานต์พบว่าอันดับแรกคือ ความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน (ร้อยละ 25.1) รองลงมาคือ การจราจรติดขัด (ร้อยละ 23.4) และการเล่นสงกรานต์ด้วยความรุนแรง (ร้อยละ 17.2)

ด้านคะแนนความพึงพอใจต่อการมาท่องเที่ยวกรุงเทพฯ ในภาพรวมมีคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 7.42 คะแนนจากคะแนนเต็ม 10 คะแนน ซึ่งลดลงจากการสำรวจครั้งก่อน 0.23 คะแนน โดยความพึงพอใจในอาหารและเครื่องดื่มมีคะแนนสูงสุด (8.29 คะแนน) ขณะที่ความพึงพอใจในคุณภาพอากาศมีคะแนนต่ำสุด (5.36 คะแนน)

* ผู้โดยสารล้นสุวรรณภูมิ เข้าทางรัฐบาลสร้างเฟส 2
* เดินหน้ากลับลำใช้นโยบาย 2 สนามบินอย่างน้อย 5 ปี
* 3 โลว์คอร์ส ประสานเสียงรอเงื่อนไขรัฐเอาใจให้กลับมาใช้ดอนเมือง
* “แอร์ เอเชีย” เล็งบุกทั้งการตลาดและระดมทุนในตลาดหุ้นไทย
       
       ปัญหาการจราจรทางอากาศของสนามบินสุวรรณภูมินับวันจะแออัดมากยิ่งขึ้น ทั้งจากการมีสายการบินใหม่ๆ เกิดขึ้น การเพิ่มจำนวนเที่ยวบินของสายการบินเดิม และการขยายเส้นทางบินใหม่ๆ ยิ่งทำให้เกิดปัญหามากยิ่งขึ้น ทำให้รัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ได้โอกาสเดินหน้าแผนที่จะลงทุนขยายสนามบินสุวรรณภูมิ เฟส 2 เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมการบิน
       
       ในเรื่องดังกล่าว จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เด้งรับทันที พร้อมเดินหน้าสนองนโยบายรัฐบาล แต่อย่างไรก็ตาม การขยายสนามบินไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถดำเนินการได้ทันที เพราะต้องรอศึกษารูปแบบการลงทุน รายละเอียดของแผนลงทุน รวมถึงการพิจารณาจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่สำคัญ หากที่ ครม.อนุมัติให้ลงทุน ขั้นตอนการก่อสร้างต้องใช้เวลานานถึง 5 ปี ซึ่งไม่ทันต่อการรองรับของอุตสาหกรรมการบินที่เติบโตขึ้นทุกวัน
       

สนามบินดอนเมือง เปิดบริการวันแรกราบรื่น "นกแอร์" ประเดิม "เทคออฟ" เที่ยวบินแรก เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ระบบให้บริการภาคพื้น ทั้งระบบนำร่อง รันเวย์ แท็กซี่เวย์ ระบบเช็คอิน สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในอาคารที่พักผู้โดยสาร สามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ "บิ๊ก ทอท." แจงแผนป้องกันน้ำท่วม ทุ่มกว่า 100 ล. สร้างกำแพงคอนกรีตถาวร สูง 3 ม. ยาว 13.5 กม. พร้อมจัดเพิ่มเครื่องสูบน้ำ-ขุดลอกคลอง พร้อมตรวจสอบเข้มเชื้อราในอาคารผู้โดยสาร จัดจ้าง บ.เอกชน เช็คสภาพอากาศ ระบบระบายอากาศ และตรวจช่องแอร์ 39 จุด

ว่าที่เรืออากาศโทอนิรุทธิ์ ถนอมกุลบุตร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวถึงการกลับมาเปิดดำเนินการวันแรกของท่าอากาศยานดอนเมือง หลังปิดยาวจากผลกระทบจากอุทกภัยครั้งใหญ่ โดยพอใจผลให้บริการเที่ยวบินของสายการบินนกแอร์เที่ยวบินแรก ซึ่งมีความราบรื่น ระบบทุกอย่างทำงานได้ตามปรกติ ขณะเดียวกัน ก็ยืนยันว่าจะมีสายการบินอื่นมาให้บริการในอนาคต

ว่าที่เรืออากาศโทอนิรุทธิ์ ยืนยันว่า ระบบให้บริการภาคพื้น ทั้งระบบนำร่อง รันเวย์ แท็กซี่เวย์ ระบบเช็คอิน และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในอาคารที่พักผู้โดยสารของท่าอากาศยาน สามารถให้บริการผู้โดยสารได้ตามปกติ ผู้โดยสารสามารถเข้ามาใช้บริการได้เหมือนเดิม

ทั้งนี้ ท่าอากาศยานดอนเมืองจะขยายศักยภาพรองรับสายการบินอื่นเพิ่มเติม เพื่อรองรับผู้โดยสารได้ 16 ล้านคนต่อปี แก้ปัญหาความแออัดของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่รองรับผู้โดยสารได้ 47-48 ล้านคนต่อปี ซึ่งขณะนี้เริ่มมีความแออัดแล้ว

ผลโพลระบุ อเมริกันครองแชมป์นักท่องเที่ยวยอดแย่ เหตุแต่งตัวไม่เหมาะสม ส่วนอันดับสองเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน ด้านนักท่องเที่ยวยอดเยี่ยมได้แก่ ดัตช์ ไอริช สวิส และ ออสเตรเลีย

ลีฟวิงโซเชียล ทำการสำรวจนักท่องเที่ยว 5,600 ทั่วโลก โดยผลปรากฏออกมาระบุว่า นักท่องเที่ยวยอดแย่ ได้แก่ ชาวอเมริกัน เพราะแต่งตัวไม่เหมาะสม ขณะเดียวกันมักพูดจาเสียงดัง และนำของใช้ในโรงแรมกลับบ้าน ส่วนนักท่องเที่ยวชาวจีน ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส และรัสเซีย ก็ติดโผนักท่องเที่ยวยอดแย่ตามลำดับ

ในขณะที่นักท่องเที่ยวยอดเยี่ยมได้แก่ ชาวดัตช์ ไอริช สวิส และ ออสเตรเลีย

นอกจากนี้ตามความเห็นของคนแต่ละชาตินั้น ชาวอเมริกันมองว่า นักท่องเที่ยวชาติตัวเองแย่สุด ส่วนชาวไอริชมองว่าชาวอังกฤษแย่สุด ขณะที่ชาวอังกฤษไม่ชอบนักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน

Manager Online

นายกฯ เป็นประธานประกาศความพร้อม "สนามบินดอนเมือง" วันนี้ มั่นใจเปิดใช้งานได้ 6 มี.ค.นี้ แน่นอน ขณะที่ ทอท. ยืนยันตรวจสอบมาตรฐานทั้งหมดแล้ว สามารถเปิดใช้งานได้ตามปรกติ

มีรายงานข่าวว่า วันนี้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปเป็นประธานงานประกาศความพร้อมของท่าอากาศยานดอนเมือง ก่อนจะกลับมาเปิดใช้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 6 มีนาคม 2555 (พรุ่งนี้) หลังจากที่ต้องหยุดให้บริการชั่วคราวหลายเดือน เนื่องจากได้รับความเสียหายจากอุทกภัยเมื่อปี 2554

สำหรับการฟื้นฟูท่าอากาศยานดอนเมืองนั้น บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (ทอท.) ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาล จำนวน 392 ล้านบาท และงบประมาณของ ทอท.เอง อีกจำนวน 1,231 ล้านบาท

นอกจากนี้ ทอท. ยังได้มีการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยทางการบิน ที่ท่าอากาศยานดอนเมืองก่อนเปิดให้บริการแล้ว ซึ่งพบว่ามีความพร้อมในด้านระบบอุปกรณ์สำหรับการให้บริการการเดินอากาศ ทั้งด้านทางวิ่ง ทางขับ ลานจอดอากาศยาน ระบบไฟฟ้าสนามบิน อาคารผู้โดยสาร อาคาร 1 ระบบสาธารณูปโภค สิ่งอำนวยความสะดวก พื้นที่จอดรถ รวมถึงมีร้านค้า สามารถเปิดให้บริการผู้โดยสารตามปกติ

ขณะที่เดียวกัน ยังได้ทำการอบฆ่าเชื้อและกำจัดกลิ่นตามมาตรฐานสากลที่ไม่มีสารพิษตกค้าง โดยมีหน่วยงานอื่นๆ ได้แก่ กรมอนามัย คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล สำนักอนามัยกรุงเทพมหานครได้ร่วมให้คำแนะนำเข้ามาร่วมตรวจสอบอีกด้วย เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

ASTVผู้จัดการรายวัน- ธุรกิจสายการบินโลว์คอสต์ เร่งเพิ่มเส้นทางบิน และ เพิ่มเที่ยวบิน รับตลาดเติบโตสูง ไทยแอร์เอเชีย ลุยเปิดเส้นทางบินใหม่ปีนี้ กว่า 10 เส้นทาง ด้านนกแอร์ ทยอยปรับเพิ่มเที่ยวบิน ในเส้นทางเก่า รับดีมานด์สูง เหตุราคาตั๋วโลว์คอสต์ สร้างพฤติกรรมคนไทยเปลี่ยน หันใช้บริการเครื่องบินในการเดินทางมากขึ้น

ตลาดสายการบินต้นทุนต่ำโตวันโตคืน ส่วนหนึ่งเป็นการเพิ่มตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น อีกส่วนหนึ่งมาจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเดินทางของคนไทย เพราะการกำหนดราคา ของสายการบินโลว์คอสต์ ทำให้การเดินทางโดยเครื่องบิน จับต้องได้มากขึ้น เส้นทางการเดินทางที่หลากหลายทั้งแหล่งท่องเที่ยวหลัก และ จังหวัดรอง ตลอดจนเส้นทางต่างประเทศ ที่ระยะไม่เกิน 3-4 ชั่วโมง ขณะที่แนวโน้มการเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศในแถบอินโดจีน มีจำนวนเพิ่มขึ้น การเพิ่มจำนวนเส้นทางบินและ เที่ยวบิน จึงตอกย้ำความเป็นศูนย์กลางทางการบินของประเทศไทยได้อย่างดีเยี่ยม

นายทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปีถึงขณะนี้ ไทยแอร์เอเชีย เปิดเส้นทางบินใหม่ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ไปแล้ว 5 เส้นทาง บินจากสนามบินสุวรรณภูมิ ไปยัง ตรัง นครพนม โคลัมโบ (ศรีลังกา) ฉงชิ่ง และ เชนไน และ ในครึ่งปีหลัง เตรียมเปิดเพิ่มอีก 6 เส้นทาง ทั้งบินออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ และ บินออกจากภูเก็ต และ เชียงใหม่ ทุกเส้นทางจะใช้เวลาบิน ไม่เกิน 3.5 ชั่วโมง ซึ่งเป็นระยะที่คุ้มทุนมากที่สุด เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง เดสติเนชั่นต่างประเทศ จะเน้น จีน และ อินเดีย เป็นหลัก เพราะ เป็นตลาดมีศักยภาพสูง ดีมานด์ของนักท่องเที่ยว ยังมีความต้องการ ทั้ง อินบาวนด์ และ เอาท์บาวนด์

ทราเวล เดลี นิวส์ อินเตอร์เนชันแนล - มกราคมเป็นเดือนที่ชาวอังกฤษเริ่มคิดแล้วว่า วันหยุดยาวปีนี้จะหนีหนาวไปอาบแดดที่ไหน โดยการสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวในวันหยุดยาวระบุว่า กรุงเทพฯ และเมืองออร์แลนโดของสหรัฐฯ เป็นสถานที่พักผ่อนซึ่งชาวอังกฤษถวิลหามากที่สุดในปี 2012 เว็บไซต์ข่าวการท่องเที่ยว ทราเวล เดลี นิวส์ อินเตอร์เนชันแนล รายงานวานนี้ (23)

ทราเวล เดลี นิวส์ อินเตอร์เนชันแนล รายงานว่า ชาวอังกฤษได้ค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวผ่านเว็บไซต์ เน็ตไฟต์ส (Netflights.com) จำนวน 650,000 ครั้ง ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยสถิติระบุว่า ชาวอังกฤษ 7 เปอร์เซ็นต์ (จำนวนคลิกประมาณ 45,500 ครั้ง) ค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ ในขณะเดียวกัน อีก 7 เปอร์เซ็นต์ ก็ต้องการพาครอบครัวไปพักผ่อนในเมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา

นอกเหนือจากสถานที่ท่องเที่ยวอันดับแรก ทั้งเมืองออร์แลนโดและกรุงเทพฯ เมืองต่างๆ ในสหรัฐฯ ก็เป็นเป้าหมายการเดินทางของนักท่องเที่ยวอังกฤษ เช่น นิวยอร์ก (6%) ลาสเวกัส (5%) และลอสแอนเจลิส (2%) ขณะที่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชาวอังกฤษส่วนหนึ่งยังมองมายังสิงคโปร์ กรุงกัวลาลัมเปอร์ กรุงมะนิลา และเกาะภูเก็ต ซึ่งล้วนติดอยู่ใน 25 อันดับแรก