เอเยนซี-สื่อรัฐรายงานวันจันทร์ (8 มี.ค.) บรรดาสายการบินจีนวางแผนซื้อเครื่องบินกว่า 210 ลำ ปีนี้ เพื่อรองรับความต้องการของการเดินทางในปีที่จะมาถึง ซึ่งจีนคาดว่าจะมีผู้โดยสารมากถึง 700 ล้านคนต่อปี ภายในปี 2563 และเพิ่มเป็นสองเท่าภายในปี 2573 สื่อจีนรายงานโดยอ้างรายงานกรมการบินพลเรือนแห่งประเทศจีน (Civil Aviation Administration of China: CAAC)

โดยในปีนี้ จำนวนผู้โดยสารคาดว่าจะเพิ่มขึ้นไปถึง 260 ล้านคน หรือประมาณ 13% ขณะที่การบินขนส่งสินค้าก็อยู่ที่ราว 4.98 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 12%

ทั้งนี้ การสั่งซื้อเครื่องบินจัมโบ้ และเคริ่องบินขนาดเล็กอื่นๆ จะช่วยขยายเที่ยวบินได้มากกว่า 1,500 เที่ยว แต่ CAAC ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม

แอร์ไชน่า สายการบินแห่งชาติจีน กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า ตกลงซื้อเครื่องแอร์บัส เอ 320 จำนวน 20 ลำ ซึ่งมีราคาปกติ อยู่ที่ราว 1.6 พันล้านดอลลาร์ แต่ทางบริษัทกำลังเจรจาเพื่อได้ซื้อในราคาพิเศษ

ส่วนสายการบินไชน่า เซาท์เทิร์นแอร์ไลน์ สายการบินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ แถลงเมื่อเดือนมกราคมว่า จะซื้อเครื่องบินแอร์บัส เอ 320 จำนวน 20 ลำ ในราคาประมาณ 1.5 พันล้านดอลลาร์

*** แอร์บัส เอ 320 อากาศยานพิสัยบินปานกลาง (ประมาณ 5,400 กิโลเมตร) สามารถจุผู้โดยสารได้ 150 คน ผลิตโดยแอร์บัส เอส.เอ.เอส. เริ่มให้บริการครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ. 2531 โดยแอร์ฟรานซ์ เป็นเครื่องบินพาณิชย์ที่มีการผลิตมากเป็นอันดับสอง เป็นรองเพียงโบอิง 737

Manager Online

ASTVผู้จัดการออนไลน์-- รถไฟท่องเที่ยวอีสเทิร์นแอนด์โอเรียนทัลเอ็กซ์เพรส (Eastern & Oriental Express) นำนักท่องเที่ยวจำนวน 110 คน จาก 7 ประเทศ พร้อมกับพนักงานบริการอีก 50 คน ข้ามแม่น้ำโขง ที่ จ.หนองคาย ถึงสถานีรถไฟท่านาแล้ง นครเวียงจันทน์ วันพฤหัสบดี (25 ก.พ.) นี้ ซึ่งถือเป็นการเปิดหน้าประวัติศาสตร์ใหม่การขนส่งระบบรางในอนุภูมิภาค

พิธีต้อนรับรถไฟท่องเที่ยวจัดขึ้นที่สถานีรถไฟแห่งแรกของลาว เมื่อเวลา 09.15 น. โดยมีนายสุกกะเสิม โพทิสาน รองประธานองค์การท่องเที่ยวแห่งชาติเป็นประธานในพิธี เอกอัครราชทูตสิงคโปร์ประจำลาว กับเจ้าหน้าที่อื่นๆ อีกจำนวนมากเข้าร่วม หนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ใหม่กล่าว

ตามกำหนดการบนเว็บไซต์ของ E&O นักท่องเที่ยวทั้งหมด จะใช้เวลา 1 วันเต็มในนครเวียงจันทน์ ก่อนจะเดินทางกลับไปยังสถานีท่านาแล้ง เพื่อนั่งรถไฟกลับสู่ประเทศไทยในเย็นวันเดียวกัน และกลับถึงสถานีรถไฟกรุงเทพฯ ในเช้าวันศุกร์ (26 ก.พ.) นี้

ขบวนด่วน E&O Express พร้อมผู้โดยสารทั้งหมดจากอเมริกาเหนือ ยุโรป เอเชียและโอเชียเนีย เดินทางจากสิงคโปร์ถึงกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันอังคาร (23 ก.พ.) ก่อนจะเดินทางสู่ จ.นครราชสีมา เพื่อไปเที่ยวชมเขาใหญ่กับปราสาทหินพิมาย ในวันรุ่งขึ้น และ มุ่งหน้าไปยัง จ.หนองคายในค่ำวันเดียวกัน

ทางรถไฟในลาวสายแรกความยาวเพียง 3.5 กม.เปิดใช้การอย่างเป็นทางการในเดือน มี.ค.2552 รัฐบาลไทยได้ตกลงจะช่วยเหลือทางการลาวก่อสร้างรถไฟอีก 9 กม.เศษ เพื่อเข้าสู่นครเวียงจันทน์ เป็นการเริ่มระบบรถไฟในประเทศที่ไร้ทางออกทะเล

ตามแผนแม่บทพัฒนาการขนส่งทางรางนั้น ทั่งประเทศลาวจะมีทางรถไฟความยาวกว่า 4,500 กม. ซึ่งในนั้นกว่า 500 กม.จะเป็นทางรถไฟระบบรางกว้าง

ASTVผู้จัดการรายวัน—โครงการก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่ที่เมืองหลวงพระบางคืบหน้าเร็ว งานปรับพื้นที่ได้เริ่มขึ้นแล้ว และพิธีเปิดการก่อสร้างมีกำหนดในเดือน มี.ค. ที่จะถึงนี้ รองเจ้าแขวง (ผจว) แขวงหลวงพระบาง นายคำแพง ไซสมแพง (Khampheng Saysompheng) เปิดเผยเรื่องนี้กับหนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ไทมส์

นับเป็นความคืบหน้าล่าสุด ตั้งแต่มีการเปิดเผยเกี่ยวกับโครงการนี้เป็นครั้งแรกในเดือน ก.ย.2552

สนามบินแห่งใหม่ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆที่เกี่ยวข้อง จะสร้างขึ้นในบริเวณพื้นที่เดียวกันกับสนามบินเดิมที่เปิดใช้ในขณะนี้ โดยบริการต่างๆ ในบริเวณสนามบินเดิม ยังคงเปิดทำการต่อไปในระหว่างการก่อสร้างด้วย

สนามบินหลวงพระบางได้รับการฟื้นฟูบูรณะมาก่อนหน้านี้ ด้วยความช่วยเหลือจากรัฐบาลไทย ทั้งในรูปเงินให้เปล่าและเงินกู้ผ่อนปรน ปัจจุบันยังสามารถรองรับได้แค่เครื่องบินโดยสารพิสัยใกล้-ปานกลาง เช่น ATR72 หรือ MA60 หรือ AN-24

แต่สนามบินใหม่ที่สร้างขึ้นในอาณาบริเวณเดียวกัน ด้วยความช่วยเหลือจากรัฐบาลจีนเป็นเงินกู้ยืมในอัตราพิเศษ 86.4 ล้านดอลลาร์

นายคำแพงกล่าวว่า ชาวลาวกว่า 500 ครอบครัวจะย้ายออกจากพื้นที่ก่อสร้าง รัฐบาลจะจ่ายค่าชดเชยให้ และจะพัฒนาพื้นที่ขึ้นใหม่ให้มีความสะดวกสบายสำหรับครอบครัวที่ถูกย้ายออกไป การตัดถนนและไฟฟ้าไปยังที่อยู่แห่งใหม่จะเริ่มทำไปพร้อมกัน

เมื่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดให้บริการแก่ประชาชนในปี 2556 สนามบินใหม่ จะรองรับเครื่องบินโดยสารขนาด 400 ที่นั่งได้ และ รับเครื่องบินโบอิ้งได้ 4 ลำ เครื่องบิน ATR อีก 7 ลำ เข้าจอดบริเวณลานจอดในเวลาเดียวกันได้ นายคำแพงกล่าว

พนมเปญโพสต์ - ทุกฝ่ายในกัมพูชายังไม่ได้ตัดสินใจว่า จะทำพิธีเปิดท่าอากาศยานนานาชาติพระสีหนุเมื่อไร หลังจากได้รับการปรับปรุงใหม่เมื่อปีที่แล้ว และเปิดให้บริการอย่างไม่เป็นทางการเป็นเวลานานเกือบสองเดือนและ ถึงเวลาที่ต้องให้บริการเที่ยวบินตามกำหนด

การเปิดใช้อย่างเป็นทางการสนามบินนานาชาติพระสีหนุ หรือสนามบิน กางแกง (Kang Keng) เมื่อก่อนนี้ ยังคงอยู่ในระหว่างการตัดสินใจ โดยเจ้าหน้าที่การบินกล่าวว่า สนามบินใหม่ประสบปัญหาความต้องการด้านการบินที่ลดลงเนื่องจากภาวะซบเซาของอุตสาหกรรมการบินโลก ที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบินของกัมพูชาที่ตกลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2552

นายทิต จันทา (Tith Chantha) ผู้อำนวยการสนามบินนานาชาติสีหนุ กล่าวในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ยังไม่ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการเปิดสนามบินแต่อย่างใด หลังจากได้ทำการปรับปรุงให้มีมาตรฐานในระดับสากล โดยบริษัท Societe Concessionnaire des Aeroports (SCA) บริษัทฝรั่งเศสซึ่งเป็นเจ้าของสัมปทานในท่าอากาศยานทั้ง 3 แห่ง รวมทั้งในกรุงพนมเปญ และที่เมืองเสียมราฐ ด้วย

ผู้จัดการบริษัท SCA ได้เคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่า การเปิดสนามบินนานาชาติพระสีหนุอย่างเป็นทางการ จะมีขึ้นในช่วงเดือน ก.พ. หรือ มี.ค. นี้

การปรับปรุงสนามบินนานาชาติพระสีหนุเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2546 ด้วยเงินลงทุน 30 ล้านดอลลาร์ ขยายทางวิ่งขึ้น-ลงให้ยาวเป็น 2.5 กิโลเมตร และเริ่มเปิดให้บริการในวันที่ 17 พ.ย. 2552

"ผมไม่ทราบวันที่แน่นอน (วันเปิดใช้สนามบินนานาชาติสีหนุ) เนื่องจากความล่าช้าที่เกิดขึ้น" นายจันทากล่าว

เอเยนซี-ฮ่องกง คว้าอันดับที่ 31 จากเมืองทั้งหมด 140 เมือง ของการจัดอันดับเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก ประจำปี 2552 ของนิตยสารอีโคโนมิสต์ ซึ่งถือเป็นเมืองจากแดนมังกรที่ได้อันดับสูงสุด สื่อจีนรายงาน

เมืองอื่นๆ ในจีน อีก 9 เมือง ที่เข้ารอบสุดท้าย ได้แก่ เทียนสิน (อันดับ 72), ซูโจว (อันดับ 74), ปักกิ่ง (อันดับ 76), เซินเจิ้น (อันดับ 82), เซี่ยงไฮ้ (อันดับ 83), ต้าเหลียน (อันดับ 86), กว่างโจว (อันดับ 89), ชิงเต่า (อันดับ 99), และไทเป (อันดับ 62)

ทั้งนี้ เมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกตกเป็นของ เมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา ตามมาด้วยกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย และเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ตามมาในอันดับสองและสาม ตามลำดับ

Manager Online

"ซาเล้ง" ได้ทีไล่บี้ "การบินไทย" เลิกบิน 3 เส้นทาง 1 มี.ค.นี้ เปิดทางนกแอร์เสียบแทน สั่งจัดทำรายละเอียดต้นทุนทั้งหมด ขีดเส้น 10 ก.พ.นี้ ชี้ เหตุผลขาดทุนไม่ใช่ข้ออ้าง เพราะเที่ยวบินเต็มเกือบ 80% ยันไม่ใช่การแทรกแซง ด้านหอการค้าฯ ประกาศค้านสุดตัว โวยใช้วิธีแก้ปัญหาไม่ถูกจุด อัดเละนกแอร์ ยังไม่น่าเชื่อถือพอ

นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงผลการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) โดยระบุถึงกรณีที่บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI/ทีจี เตรียมยกเลิกเที่ยวบินใน 3 เส้นทาง ได้แก่ กรุงเทพฯ-พิษณุโลก กรุงเทพ-อุบลราชธานี และเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน โดยให้สายการบินนกแอร์มาทำการบินแทนในวันที่ 1 มีนาคม 2553 นั้น ที่ประชุมได้มอบหมายให้การบินไทยไปจัดทำรายละเอียดต้นทุนการให้บริการของทั้ง 3 เส้นทาง

นอกจากนี้ กรอ.ยังมอบหมายให้ การบินไทย จัดทำรายละเอียดต้นทุนการบินในเส้นทางอื่นๆ ที่เตรียมจะยกเลิกบินด้วย เช่น สุราษฎร์ธานี อุดรธานี และอุบลราชธานี โดยให้นำข้อมูลมาเสนอให้นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ภายในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2553 นี้

"ที่ประชุมมีความคิดเห็นต่างกันถึงการยกเลิกเที่ยวบินในประเทศของการบินไทย โดยการบินไทยระบุว่าขาดทุน แต่ภาคเอกชนตั้งข้อสังเกตุว่า การบินไทยมีอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสารสูงถึง 80% ทำไมถึงขาดทุน"

ดังนั้น การบินไทยจะต้องทำรายละเอียดต้นทุนมาให้พิจารณา เพื่อจะนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจของ กรอ.ว่าจะมีแนวทางในเรื่องนี้อย่างไร พร้อมยืนยันว่า การดำเนินงานดังกล่าวไม่ใช่การเข้าไปแทรกแซงการทำงานของการบินไทย

แอร์พอร์ตลิงก์ยังไม่พร้อม ระบบ-ความปลอดภัย-บุคลากร ยังวุ่น ร.ฟ.ท.เร่งแก้ปัญหา ส่อเปิดเดินรถเชิงพาณิชย์ไม่ทัน เม.ย.53 คาดเป็น ส.ค.53 เหตุปัญหาหลักผู้บริหารการเดินรถยังไม่ชัด บริษัทลูกไม่เกิด บุคลากรไม่พร้อม ที่ปรึกษาอิสระ (ICE) ไม่รับรองความปลอดภัย

นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง หรือแอร์พอร์ตลิงก์ว่า ผลการติดตามงานล่าสุดเมื่อวันที่ 6 ม.ค.2553 ยังมีปัญหาหลัก 3 เรื่อง คือ 1.ระบบติดต่อสื่อสารแต่ละสถานียังไม่มีความสมบูรณ์ 100% โดยเฉพาะการติดต่อสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในกรณีการเกิดเหตุความไม่ปลอดภัยในสถานี 2.การติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) เพิ่มเติมในจุดที่ยังไม่ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของโครงการ และ 3.ระบบประตูภายในสถานีบางแห่งยังไม่มีความเรียบร้อย

นอกจากนี้ การตรวจเพื่อรับงานก่อสร้างโครงสร้างงานโยธาและการติดตั้งระบบรางและระบบไฟฟ้าเครื่องกล (E&M) จากกลุ่มกิจการร่วมค้า บี.กริมม์ อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งมีบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นแกนนำ ยังไม่เรียบร้อย เนื่องจากยังพบปัญหาทางด้านเทคนิคบางอย่าง ซึ่ง ร.ฟ.ท.จะต้องเร่งดำเนินการให้เสร็จสิ้น และจะมีการประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าอีกครั้งในสัปดาห์หน้า

“ปัญหา 3 เรื่องจะต้องเร่งดำเนินการแก้ไขเพื่อให้ที่ปรึกษาวิศวกรอิสระ (Independent safety and system Certification Engineer : ICE) ตรวจสอบเพื่อออกหนังสือรับรองความปลอดภัย รับรองประกันความมั่นคงและความปลอดภัยของระบบรถไฟฟ้า ก่อนที่จะดำเนินการเปิดให้บริการในเชิงพาณิชย์ให้ได้ภายในเดือน เม.ย.2553 นี้” นายยุทธนากล่าว

เมืองพัทยาทุ่มงบ กว่า 30 ล้านบาท จัดเคาท์ดาวน์ 2010 มากกว่าปีก่อนเท่าตัว คาดเงินสะพัด 500 ล้านบาท ระบุได้พันธมิตร อสมท.ถ่ายทอดสดผ่านอาเซียนทีวี ซึ่งมีผู้ชมกว่า 600 ล้านคน ได้อานิสงส์สร้างชื่อพัทยาติดอันดับเมืองจัดเวิลด์อีเว้นต์ นายกเมืองฯเผย ปีหน้ารุกกระหน่ำจัดเวิลด์อีเว้นต์กว่า 7 งาน กระทุ้งนักท่องเที่ยวแตะ 5 ล้านคน

นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เปิดเผยว่า ได้จับมือกับพันธมิตร อาทิ องค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี บมจ.จีเอ็อเอ็ม มีเดีย บมจ.อสมท. บมจ.ทีโอที และ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด จัดงานเคาท์ดาวน์ 2010 ณ แหลมบาลีไฮน์ เมืองพัทยา ระหว่างวันที่ 25 ธ.ค. ถึง คืนวันที่ 31 ธ.ค.52 ภายใต้ชื่องาน อะเมซิ่งพัทยา อะเมซิ่งเคาท์ดาวน์ โดยใช้งบประมาณกว่า 30 ล้านบาท

มากกว่าปีก่อนที่ใช้งบราว 17 ล้านบาท โดย คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวช่วงเวลาจัดงานไม่น้อยกว่า 5 แสนคน สร้างรายได้เข้าเมืองพัทยากว่า 400-500 ล้านบาท จากปีก่อนซึ่งเป็นการจัดงานเคาท์ดาวน์ครั้งแรกของเมืองพัทยา ซึ่งมีผู้เข้าร่วมงานเกือบ 5 แสนคน เงินสะพัดราว 400 ล้านบาท โดยนักท่องเที่ยวจะมีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติในสัดส่วนที่เท่าๆกัน

สำหรับปีนี้ นอกจาก อสมท.จะถ่ายถอดสดผ่านสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ ยังได้ขยายการถ่ายทอดสัญญาณ ผ่านอาเซียนทีวี ซึ่งมีประชาคมอาเซียนกว่า 600 ล้านคนร่วมรับชม ซึ่งจะสามารถสร้างชื่อเสียงเมืองพัทยาในการจำกิจกรรมระดับเวิลด์อีเวนต์ให้ชาวอาเซียนได้รับรู้ นอกจากนั้นในทุกๆวันของการจัดงาน ยังได้จัดกิจกรรมให้ผู้ชมร่วมโหวตในช่วงของการจุดพลุในทุกๆค่ำคืน

ขปล./เวียงจันทน์ไทมส์ - การประกวดพิธีกรผู้ประกาศในพิธีเปิด-ปิดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 25 ที่จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 9-18 ธ.ค.นี้ โดยมีประเทศลาว เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ได้คัดเลือกผู้ทำหน้าที่พิธีกรผู้ประกาศทั้ง 10 คน เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (23 ต.ค.) ยังหอวัฒนธรรมแห่งชาติ

ผู้ชนะทั้ง 10 คน ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการที่ดูแลการจัดการพิธีเปิด-ปิดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ประเทศลาว จากผู้เข้าสมัครทั้งหมด 90 คน ที่เปิดรับสมัครมาตั้งแต่เดือน ก.ย.ที่ผ่านมา

วัตถุประสงค์หลักของการจัดงานครั้งนี้ คือ คัดเลือกผู้ทำหน้าที่พิธีกรผู้ประกาศที่ดีที่สุด ซึ่งบุคคลนั้นจะต้องมีคุณสมบัติที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างยอดเยี่ยม และแสดงออกถึงวัฒนธรรมของชาติได้อย่างสวยงามจากการแต่งกาย รูปร่างหน้าตา และพฤติกรรม ในระหว่างพิธีเปิดและพิธีปิดการแข่งขัน

ในการประกวดรอบสุดท้าย ผู้แข่งขันที่ผ่านเข้ารอบมาทั้ง 20 คน หรือ 10 คู่ เป็นชาย 10 คน และหญิง 10 คน ต้องแสดงทักษะของการเป็นพิธีกรผู้ประกาศทั้งในภาษาลาว และภาษาอังกฤษ ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ที่ผ่านเข้ารอบมานี้ เคยมีประสบการณ์ในการเป็นพิธีกรผู้ประกาศทางโทรทัศน์และวิทยุมาก่อน โดยคณะกรรมการที่เป็นผู้ตัดสินนั้นล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านวัฒนธรรม การใช้ภาษา ทั้งที่เป็นชาวต่างประเทศ และชาวลาวเอง

รฟท.อัดโปรโมชั่นเด็ด แจกตั๋ว 2 พันใบ หวังล่อใจรากหญ้าในกรุง ทดลองนั่งทุกวันพุธ "ยุทธนา" ฟุ้ง ปชช.เห่อของฟรี ตั๋วเกลี้ยงใน 1 ชั่วโมง ขณะที่มี ปชช.ผิดหวังเป็นจำนวนมาก เตรียมเปิดขยายวันทดลองนั่งทุกเสาร์-อาทิตย์ จนถึง มี.ค.53 ขณะที่ พนง.รถไฟกว่า 300 คน หอบดอกไม้เข้าให้กำลังใจ

มีรายงานข่าวการเปิดทดสอบการให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ เป็นวันแรกในวันนี้ โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้เปิดให้ประชาชนที่สนใจทดลองนั่งทดสอบรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ สามารถมารับตั๋วฟรีได้ โดยบรรยากาศตั้งแต่เวลา 09.00 น.ที่ผ่านมาจำนวนตั๋วที่เตรียมไว้ 2,000 ใบ ซึ่งจะเป็นตั๋วโดยสารให้ประชาชนทดลองนั่งทุกวันพุธกลางสัปดาห์ ภายในเดือนตุลาคม 2552 มีประชาชนรับตั๋วจนหมดภายใน 1 ชั่วโมง

ขณะเดียวกันยังมีประชาชนจำนวนมากขอตั๋วเพิ่มเติม ซึ่งทาง รฟท.ได้แก้ปัญหาด้วยการเปิดให้ประชาชนลงชื่อ พร้อมเบอร์โทรศัพท์ ซึ่ง รฟท.ได้มีการประสานงานกับบริษัท ซีเมนต์ ผู้ทดสอบการเดินรถ ขณะนี้สามารถให้ประชาชนทดลองโดยสารในวันและเวลาเพิ่มเติมซึ่งจะมีการกำหนดอีกครั้ง

นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการ รฟท.เปิดเผยว่า หลังจากประชาชนมารับตั๋ววันนี้ และทดลองนั่งวันที่ 1 ธันวาคม 2552 รฟท.จะเปิดให้ประชาชนมารับตั๋วฟรีอีกครั้งในวันที่ 1 ธันวาคม 2552 และสามารถนำตั๋วดังกล่าวไปทดลองนั่งวันที่ 5-7 ธันวาคม 2552 นี้ หลังจากนั้นตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2552 เป็นต้นไป จนถึงเดือนมีนาคม 2553

ดังนั้น เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการคนกรุงเทพฯ โดยก่อนรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการนั้น รฟท.จะเปิดเที่ยวรถโดยสารให้ประชาชนทดสอบได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ในช่วงเวลาดังกล่าว พร้อมแสดงความมั่นใจว่า ความคืบหน้าโครงการและกระบวนการทดสอบของโครงการ จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการได้เดือนมีนาคม 2553