อิเซตัน (ISETAN) ปักธงไทยไม่หนีการเมือง จี้ซีพีเอ็นเข้มมาตรการปลอดภัย

Submitted by admin on

อิเซตัน (ISETAN) ไม่ถอดใจมองไทยขาขึ้น ไม่หวั่นการเมืองพร้อมเดินหน้าลุยเปิดอิเซตัน หวังดึงกำลังซื้อกลับมาดังเดิม หวังเข็นรายได้สู่ 1,160 เท่าปีก่อน หลังปิดให้บริการ 82 วัน สูญรายได้ร่วม 262 ล้านบาท

นายทาเคชิ อิโต กรรมการผู้จัดการใหญ่ ห้างสรรพสินค้า อิเซตัน เปิดเผยว่า ทางบริษัทยังพร้อมลงทุนในประเทศไทย จึงยังคงเปิดให้บริการอิเซตันในวานนี้ (24มิ.ย.) ถึงแม้ว่าจะมีกระแสข่าวออกมาว่า ทางบริษัทถอดใจจะถอนการลงทุนออกจากประเทศไทยก็ตาม แต่ขอยืนยันว่าทางบริษัทแม่ยังมองว่า ประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น พร้อมทั้งประเทศไทยมีอิเซตันเพียงสาขาเดียว ดังนั้นจึงพร้อมที่จะลงทุนและเปิดให้บริการต่อไป ขณะที่ปัจจุบันอิเซตันเปิดให้บริการมากว่า 18 ปี ยังเหลือสัญญาเช่าอีก 12 ปี

สำหรับแผนการดำเนินงานหลังจากนี้ ทางบริษัทวางไว้ทั้งหมด 3 เฟส คือ เฟสที่ 1 เริ่มจากวานนี้จนถึงช่วงเดือนธ.ค. โดยในเฟสแรกนี้จะเน้นเรื่องของการบริการและเซอร์วิสต่างๆเพื่อทำให้ลูกค้ากลับมาเข้ามาใช้บริการดังเดิม มากกว่าจะหวังเรื่องของรายได้ เพราะมองว่าเพียงลูกค้ากลับมาดังเดิมก็ถือว่าดีมากแล้ว ซึ่งมองว่าน่าจะกลับมาได้ประมาณ 50% จากปกติต่อวันจะมีลูกค้าเดินเข้าศูนย์ฯในวันธรรมดาอยู่ที่ 20,000 คน และวันเสาร์-อาทิตย์ ประมาณ 30,000-40,000 คน

ล่าสุดทางศูนย์ใช้กลยุทธ์ คอลมาร์เก็ตติ้ง โทรศัพท์หาสมาชิกกว่า 6,000 คน ให้รับรู้และกลับมาชอปปิ้งที่อิเซตัน ซึ่งปกติลูกค้าที่มาชอปที่อิเซตันกว่า 25% เป็นนักท่องเที่ยว โดยในจำนวนนี้กว่า 10% เป็นชาวญี่ปุ่น ซึ่งในกลุ่มนี้มองว่าขาดความมั่นใจและคงจะกลับมาชอปอีกครั้งคงอีกนาน และอีกส่วนอีก 75% เป็นกลุ่มโลคอล ซึ่งพร้อมกลับมาชอปปิ้งอยู่แล้ว เพียงเน้นเรื่องการประชาสัมพันธ์ให้รับทราบ นอกจากนี้ทางศูนย์ฯยังชูเรื่องขออีเว้นท์ที่มีความพิเศษของอิเซตัน รวมถึงร่วมกับทางเซ็นทรัลเวิล์ดในการทำอีเว้นท์สร้างการรับรู้ให้ลูกค้ากลับมาด้วย ส่วนในเฟสที่2นั้น จะเริ่มในช่วงเดือนม.ค.-พ.ค.ปี2554 หรือในช่วงเดียวกับบางส่วนของทางเซ็นทรัลเวิล์ดเปิดให้บริการ และเฟสที่3 จะเริ่มในช่วงเดือนมิ.ย.ปีหน้า

ขณะที่ในแง่ของรายได้ในปีนี้นั้น เดิมตั้งเป้าไว้ว่าต่อเดือนจะต้องมีรายได้เติบโตขึ้น10% ทุกเดือน แต่ปัจจุบันเพียงหวังว่าทั้งปีจะมีรายได้เท่าปีก่อน คือ 1,160 ล้านบาท ก็ถือว่าดีเยี่ยมแล้ว

นายทาเคชิ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามในช่วงที่ปิดให้บริการไปกว่า 82 วันในช่วงเดือนมี.ค. - เม.ย.นั้น ทางศูนย์สูญเสียรายได้ไปกว่า 262 ล้านบาท โดยในช่วงดังกล่าว พนักงานก็ได้หยุดงานไปกว่า 1 เดือนเต็ม คือ ช่วงเดือนเม.ย. ซึ่งทางศูนย์ก็มีมาตรการให้รายงานตัวอยู่ตลอด ซึ่งจากเรื่องที่เกิดขึ้น ทางภาครัฐพร้อมที่จะช่วยจ่ายเงินเดือนชดเชยให้พนักงาน 1 เดือน ขณะที่ในแง่ของสถานที่นั้น ทางศูนย์ฯ ไม่ได้ความเสียหายอะไรมากนัก แต่ก็ได้มีการพูดคุยกับทางเซ็นทรัลเวิล์ด ในการหามาตรการป้องกันตัวอาคารเช่นกัน แต่ก็เชื่อว่าประเทศไทยจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก

Manager Online