ฮ่องกงผุดอาคารผู้โดยสารสกัดดาวรุ่งสนามบินในเอเชีย

Submitted by admin on

เอเอฟพี - สนามบินนานาชาติฮ่องกงเปิดตัวอาคารผู้โดยสารแห่งที่สอง เมื่อวันศุกร์ (1 มิ.ย) เพื่อสนองความต้องการ ของผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น ด้านนักวิเคราะห์ชี้ แม้อาคารหลังใหม่ จะช่วยเสริมสถานภาพของสนามบินฯ ในฐานะศูนย์กลาง การคมนาคมของอาเซียน และระดับโลก แต่การแข่งขัน จากคู่แข่งในภูมิภาค จะยังคงดุเดือดต่อไป

Vincent Ng นักวิเคราะห์การบินสถาบันวิจัยกองทุนอาเซียน ของสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส ในสิงคโปร์กล่าวว่า ในภูมิภาค ซึ่งมีอัตราขยายตัวผู้โดยสารเพิ่มเร็วกว่าอัตราเฉลี่ยของโลก ต้องเตรียมการอย่างดี เพื่อขจัดปัจจัย ที่จะมาคุกคามสถานภาพ การเป็นศูนย์กลางการบินนานาชาติของตน

“สนามบินทุกแห่งต่างกำลังวางแผนเพื่ออนาคต โดยเฉพาะในเอเชีย และตะวันออกกลางอย่าง ดูไบ จะเห็นได้ว่าเอเชียกำลังพัฒนาเร็วกว่าส่วนอื่นของโลก มีการสร้างสนามบินใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และขณะนี้พวกเขายังมีเวลาที่จะจัดวางตระเตรียมเพื่ออนาคต” Ng กล่าว

Jim Eckes กรรมการผู้จัดการอินโดสวิส เอเวียชั่น บริษัทให้คำปรึกษาด้านการบินในฮ่องกงเชื่อว่า การที่ฮ่องกงเปิดอาคารผู้โดยสารขนาด 140,000 ตารางเมตรจะสามารถดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น

ฮ่องกงถือเป็นศูนย์กลางการบินที่สำคัญในเอเชียและจีน สร้างบนพื้นที่ที่เกิดจากการถมทะเล เป็นหนึ่งในสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปี 1998

ทั้งนี้สนามบินนานาชาติฮ่องกง มีจำนวนผู้โดยสารทางอากาศเพิ่มขึ้นจาก 28.6 ล้านคนในปี 1998 เป็น 44.4 ล้านคนเมื่อปีที่แล้ว คาดปี 2025 จะแตะระดับ 80 ล้านคน มีสายการบินกว่า 85 ราย ให้บริการเที่ยวบินไปยังเมืองต่างๆทั่วโลก กว่า 150 แห่ง ซึ่งรวมถึงเมืองต่างๆในจีน 40 แห่ง แต่ฮ่องกงก็ยังมีคู่แข่งอยู่ดี

สนามบินของสิงคโปร์ซึ่งเป็นคู่แข่งตัวฉกาจอันยาวนานของฮ่องกง ปีที่แล้วรองรับผู้โดยสาร 35 ล้านคน มีอาคารผู้โดยสาร 2 แห่ง และอีกแห่ง จะเปิดตัวในเดือนมกราคมปีหน้า ซึ่งอาคารผู้โดยสารแห่งใหม่ขนาด 380,000 ตารางเมตรนี้ สามารถรองรับผู้โดยสารราว 70 ล้านคนต่อปี และสนามบินแห่งนี้ มีสายการบินกว่า 80 แห่งให้บริการเที่ยวบินไปยังเมืองต่างๆทั่วโลก 180 แห่ง

“สิงคโปร์มักเป็นจ่าฝูงในด้านการสร้างอาคารผู้โดยสาร ก่อนที่จะจำเป็นต้องใช้มันเสียอีก พวกเขามองการณ์ไกล และฮ่องกงก็ต้องทำตามเช่นนั้นด้วย” Eckes กล่าว

อย่างไรก็ดี ทุกวันนี้ ฮ่องกงกำลังเผชิญหน้ากับคู่แข่งตัวเอ้ที่อยู่ใกล้ตัวกว่า คือ สนามบินไป๋หยุน ทางตอนใต้ของจีน ซึ่งขณะที่ฮ่องกงกำลังพิจารณาแผนสร้างรันเวย์แห่งที่สาม ไป๋หยุนกลับมีแผนสร้างรันเวย์แห่งที่สามเรียบร้อยแล้ว กำหนดเสร็จสิ้นปี 2011

ทั้งนี้ตามรายงานการวิจัยของมอร์แกน สแตนลี่ย์ระบุ สนามบินไป๋หยุน ในมณฑลกว่างตง, กวางตุ้ง ซึ่งเป็นสนามบินใหญ่อันดับสามของจีน ปีที่แล้ว รองรับผู้โดยสารทั้งสิ้น 26.2 ล้านคน ลุยศึกชิงส่วนแบ่งตลาดจากคู่แข่ง คือสนามบินเซินเจิ้น ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับฮ่องกง

“เมื่อคุณมองที่ตั้งของไป๋หยุน บนแผนที่ประเทศจีน คุณจะต้องมีแผนโครงสร้างพื้นฐาน ไม่ใช่เพื่อให้สามารถไล่ทันคู่แข่งเพื่อนบ้านของคุณเท่านั้น แต่จะต้องสร้างภาพลักษณ์ เพื่อรองรับอัตราเติบโตในวันข้างหน้าได้ด้วย ซึ่งอัตราเติบโตในขณะนี้ร้อนฉ่าสุดๆ”

อุตสาหกรรมการบินของจีน เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่เติบโตเร็วสุดในโลก ซึ่งเป็นสิ่งสะท้อน ถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศ ที่มีประชากร 1,300 ล้านคน ที่กว้างขวางมากขึ้น และปีที่แล้ว การเดินทางทางอากาศของผู้โดยสารในจีนเพิ่มขึ้น 16.7% เท่ากับ 332 ล้านเที่ยว

อย่างไรก็ดี อาจต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง ก่อนที่สนามบินไป๋หยุนแก่กล้าพอ ระหว่างนี้ฮ่องกงจะยังโล่งใจได้ เนื่องจากเอเซียน แอโรสเปซ(Asian Aerospace) งานนิทรรศการการบินใหญ่อันดับสามของโลก กำลังย้ายมาจัดที่ฮ่องกง ซึ่งที่ผ่านมาจัดที่สิงคโปร์ทุก 2 ปี ตั้งแต่ปี 1984

ผู้จัดงานเอเซียน แอโรสเปซย้ายมาจัดในฮ่องกง เนื่องจากกำลังสนใจตลาดการบิน ที่ให้ผลกำไรมหาศาลในจีน และฮ่องกงมีสถานะที่มั่นคงในฐานะเป็นประตูสู่จีน

“ฮ่องกงจะยังเป็นศูนย์กลางการบินที่สำคัญในส่วนนี้ของโลกต่อไป ขณะเดียวกัน สายการบินชั้นนำ จะยังคงเดินหน้าลงทุนเพิ่มข้อได้เปรียบของตน เพื่อจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำในอนาคต” Ng กล่าว

Source : Manager Online