รัฐ-เอกชนไม่ขวางมารีนา "บิล เกตส์" ที่อ่าวพังงา

Submitted by admin on

ศูนย์ข่าวภูเก็ต -ภาครัฐ-เอกชนในภูเก็ต-พังงาตอบรับโครงการสร้างเกาะมารีนาและโรงแรมหรูของมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก “บิล เกตส์” ในอ่าวพังงา เพราะเป็นการสนับสนุนให้เรือยอชต์ของมหาเศรษฐีจากทั่วโลกเดินทางเข้ามามากขึ้น แต่จะต้องไม่กระทบสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตของชาวบ้าน ขณะที่ผู้ว่าฯภูเก็ตโต้เพิ่งทราบข่าวยังไม่ได้อนุญาตให้ก่อสร้างแต่อย่างใด

จากกรณีที่สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานจากฮ่องกง ว่า นายกูลู ลาฟวานี ผู้บริหารและก่อตั้งบริษัท โทรศัพท์ บินาโทนและเจ้าของโครงการ “รอยัล ภูเก็ต มารีน่า” ที่จังหวัดภูเก็ต ให้สัมภาษณ์ว่า มหาเศรษฐีเบอร์ 1 ของโลก "บิล เกตส์" ได้เดินทางมาเมืองไทยเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา พร้อมกับภรรยา โดยใช้เรือยอชต์หรูหราขนาดความยาว 177 ฟุต หรือ 54 เมตร จึงเกิดความประทับใจและชื่นชอบชายทะเลของไทยอย่างมาก และต้องการเดินทางมาทุกปีหาก หากมีที่สำหรับจอดเรือยอชต์ขนาดใหญ่ของเขาได้

นายบิล เกตส์ สนใจที่จะเข้ามาสร้างเกาะที่ที่บริเวณอ่าวพังงา โดยสร้างเป็นรูปทรงกลมคล้ายขนมโดนัท มีเรือนพักหรูหราแบบวิลล่า 30-40 ยูนิต พร้อมกับโรงแรมชั้นหนึ่งโดยรอบท่าเรือ และได้รับอนุญาตจากทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตแล้ว ซึ่งการก่อสร้างคาดว่าจะเริ่มขึ้นได้ในปลายปีนี้ โดยจะใช้เวลาทั้งสิ้น 4 ปี

สำหรับชื่อเกาะที่จะสร้างขึ้นชื่อว่า “โซรัส” (Zoran) เป็นการตั้งชื่อตามบุตรชายคนเล็กของนายลาฟวานี อยู่ห่างจากชายฝั่งเกาะภูเก็ตประมาณ 3 กม. และอยู่ในบริเวณอ่าวพังงา ซึ่งเคยใช้เป็นสถานที่สำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์แอกชั่นเรื่อง เจมส์ บอนด์ 007 ตอน The Man With the Golden Gun โครงการพัฒนาเกาะแห่งนี้ก็คล้ายกับโครงการ เดอะ ปาล์ม และ เดอะ เวิลด์ เกาะที่มนุษย์สร้างเป็นรูปทรงใบปาล์มและแผนที่โลก ตั้งอยู่นอกชายฝั่งเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ มูลค่าโครงการนี้ประมาณ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 7,000 ล้านบาท

ภายหลังจากที่ข่าวดังกล่าวออกมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ภูเก็ตและพังงา ต่างก็เห็นด้วยกับการเข้ามาลงทุนของมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก เพราะจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว ดึงนักเล่นเรือยอชต์จากทั่วโลกให้เดินทางเข้ามาในพื้นที่ภูเก็ต พังงา แต่การลงทุนดังกล่าวจะต้องไม่กระทบสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวติของชาวบ้านและชุมชนในบริเวณนั้น

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การเข้ามาลงทุนของนายบิล เกตส์ในครั้งนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีหากมองในแง่ของการลงทุนและการส่งเสริมการท่องเที่ยว เพราะมารีนารองรับเรือยอชต์เป็นยุทธศาสตร์หนี่งที่ถูกกำหนดให้การพัฒนาจังหวัดในฝั่งอันดามันทั้ง 3 จังหวัด และภูเก็ตเองได้ให้ความสำคัญในการดึงเรือยอชต์จากต่างชาติเดินทางเข้ามามากด้วย ซึ่งท่าเรือยอชต์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ถือว่าไมเพียงพอและเมื่อเทียบกับประเทศใกล้เคียงอย่างเกาะลังกาวีของมาเลเซียที่มีมารีนา 5-6 แหล่งและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ภูเก็ตถือว่ายังน้อยอยู่

“หากโครงการนี้เกิดขึ้นได้จะเป็นประโยชน์กับจังหวัดภูเก็ตอย่างมหาศาล ทั้งในแง่เศรษฐกิจและการจ้างงานในพื้นที่ และเมื่อเร็วๆนี้จังหวัดภูเก็ตเพิ่งจะได้รับรางวัลแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำดีเด่น ในเรื่องของมารีนา ซึ่งทางผู้ประกอบการมารีน่าให้ความสำคัญกับรางวัลนี้ โดยจะจัดงานฉลองในเร็วๆนี้” ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวและว่า

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าการลงทุนดังกล่าวจะเป็นการดึงนักท่องเที่ยวเรือยอชต์ให้เข้ามาพื้นที่จำนวนมาก แต่ก็จะต้องคำนึงด้วยว่าการลงทุนดังกล่าวมีผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งวีถีชีวิตของชาวบ้านและชุมชนหรือไม่

จากกรณีที่นายกูลู ลาฟวานี ระบุว่าโครงการดังกล่าวได้รับอนุญาตจากผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตแล้ว และจะก่อสร้างในช่วงปลายปีนี้ นายนิรันดร์ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้รับการติดต่อจากโครงการเลย เพิ่งจะทราบเมื่อมีข่าวออกมาเท่านั้นเอง ก่อนหน้านี้ไม่ได้มีการติดต่อเข้ามาแต่อย่างใด และอย่างที่กล่าวไปแล้วว่าการลงทุนมีประโยชน์แต่ต้องไม่กระทบสิ่งแวดล้อมและชาวบ้านด้วย

ด้านนายไมตรี นฤขัติพิชัย นายกสมาคมธุรกิจการกท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การก่อสร้างเกาะขึ้นมาเพื่อทำเป็นมารีน่าและโรงแรมในอ่าวพังงานั้น ตนคิดว่าเป็นไปได้อยาก เพราะเท่าที่ทราบในอ่าวพังงาได้ประกาศเป็นพื้นที่ที่อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คงเป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ง่ายนัก และในอ่าวพังงาไม่ควรที่จะมีสิ่งปลูกสร้างใดเกิดขึ้นในทะเล เพราะจะเป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติได้ง่าย ๆ

อย่างไรก็ตาม การเกิดขึ้นของโครงการดังกล่าว เป็นสิ่งที่ดี ที่จะดึงดูนักท่องเที่ยวกลุ่มเรือยอชต์ ให้เข้ามาในพื้นที่มากขึ้น แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นจะต้องไม่กระทบกับสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติในทะเล รวมถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับวิถีชีวิตของชาวและชุมชนด้วยเป็นสำคัญ

นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา กล่าวว่า ในส่วนของจังหวัดพังงามีนโยบายที่จะเชื่อมโยงการท่องเที่ยวทางทะเล ซึ่งการที่นายบิล เกตส์ จะเข้ามาลงทุน สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ที่จะมีขึ้นในอ่าวพังงาอยู่แล้ว และจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางเรือ ซึ่งจังหวัดพังงาเห็นด้วยที่จะเข้ามาลงทุน แต่จะต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายและสิ่งแวดล้อม และที่สำคัญจะต้องศึกษาว่ามีผลกระทบต่อคนในพื้นที่หรือไม่ ที่ผ่านมายังไม่ใครเข้ามาคุยเรื่องนี้

ในส่วนของจังหวัดพังงาเองมีแผนที่จะสร้างท่าเรือมารีนาที่เกาะยาวอยู่แล้ว เพื่อที่ให้นักท่องเที่ยวมาแวะพัก โดยในส่วนของมารีนาที่เกาะยาว ที่จังหวัดกำลังจะสร้างก็จะไม่มีในเรื่องของการซ่อมเรือ จะเป็นเพียงสถานที่แวะพักเท่านั้น และที่ผ่านมาได้มอบหมายให้กรมขนส่งทางน้ำจ้างบริษัที่ปรึกษาทำการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียด เพื่อไม่ให้กระทบสิ่งแวดล้อม พร้อมกับได้นำเสนอผลการศึกษาไปแล้วครั้งหนึ่ง

ขณะที่นางกิตติพร สุทธิพิบูลย์ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดพังงา กล่าวว่า จากการที่ได้รับทราบข่าว ทราบว่าพื้นที่ที่สนใจจะลงทุนก่อสร้างนั้นจะอยู่ในทะเลจังหวัดภูเก็ตมากกว่าจังหวัดพังงา ซึ่งการเข้ามาลงทุนของ บิล เกตส์ จะช่วยส่งเสริมและสนับสนุนการท่องเที่ยวของ 3 จังหวัดอันดามัน ทั้งภูเก็ต พังงาและกระบี่ ให้ยกระดับกลุ่มนักท่องเที่ยวเป็นกลุ่มไฮเอนมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม การที่จะก่อกสร้างจะต้องดูว่ารบกวนธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหรือไม่ เพราะตามข่าวจะมีการสร้างเป็นเกาะขึ้นมา รวมไปถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนและชุมชน และคิดว่าก่อนที่จะดำเนินการจะต้องฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่ก่อนว่าเห็นด้วยกับโครงการหรือไม่ และโครงการดังกล่าวจะกระทบชาวบ้านอย่างไรบ้าง source : Manager Online