พารากอนเพิ่มอีเว้นต์ครึ่งหลัง เผยยอดขายสินค้าลักชัวรี่หด10%

Submitted by admin on

พารากอน ชี้ เศรษฐกิจการเมือง ฉุดยอดขายสินค้า ลักชัวรี่ (ฟุ่มเฟือย)หล่นวูบไปกว่า 10% แต่ทางกลับกันกลุ่มอาหาร เครื่องเสียง กีฬากอล์ฟ ยังไปได้สวย ยอดขายยังเกินเป้า ระบุเป็นเพียงฝันร้ายระยะสั้น งัดกลยุทธ์ครึ่งปีหลังอัดกิจกรรมถี่ยิบ ชูแคมเปญกระตุ้นนักท่องเที่ยว และสินค้าระดับบนเป็นหลัก ยันสิ้นปีรายได้ยังเติบโต 10-15% แน่

นายเกรียงศักดิ์ ตันติพิภพ ผู้บริหารอาวุโสสายการตลาด บริษัท สยามพารากอน ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าสยามพารากอน เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาของบริษัทฯ พบว่าสินค้าที่ขายภายในห้างสรรพสินค้าในกลุ่มของ ลักชัวรี่(กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย ระดับบน) จำพวกเพชรหรือสินค้าที่ไม่จำเป็นได้ลดลงอย่างเด่นชัด ยอดขายตกลงไปกว่า 5-10% สาเหตุเป็นเพราะอัตราค่าเงินบาทที่แข็งตัวขึ้น

ในขณะเดียวกันแม้ว่ายอดขายในกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยจะลดลงบ้างแต่กลุ่มสินค้าตกแต่งบ้านที่เติบโตแบบทรงตัว ขณะที่กลุ่มสินค้าที่ยังมียอดขายเติบโต ได้แก่ ส่วนห้างสรรพสินค้า อาหาร เครื่องเสียง และอุปกรณ์กอล์ฟ

สำหรับปัจจัยที่ทำให้สินค้าประเภทดังกล่าวที่ได้กล่าวมาข้างต้น ยังสามารถขยายตัวและสร้างยอดขายได้เป็นอย่างดี อันเนื่องมาจากสินค้าเหล่านี้ยังเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นอยู่สำหรับกลุ่มลูกค้าคนเมืองที่เป็นกลุ่มหลักๆของบริษัทฯอยู่ ในขณะเดียวกันมองว่าในอีกไม่ช้า บ้านจัดสรร คอนโด ก็กำลังจะเกิดขึ้นอีกมาก อาทิ เช่น ย่านสุขุมวิท เป็นต้น ซึ่งตรงจุดนี้เล็งเห็นถึงการขยายตัวได้อีกอยู่มากสำหรับสินค้าลิฟวิ่ง(ตกแต่งบ้าน)ผสมสานกับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ยังเข้ามาจับจ่ายใช้สอยเฉกเช่นปกติอยู่ ซึ่งจากที่ผ่านมากลุ่มลูกค้าที่เข้ามาใช้จ่ายหมุนเวียนในห้างสรรพสินค้ามีอยู่ 1 แสนคนต่อวัน เฉลี่ยการใช้จ่ายลูกค้าอยู่ที่ 3,000-4,000 บาทต่อคนต่อครั้ง ซึ่งถือว่ายังดีอยู่แม้ภาวะทางเศรษฐกิจที่ไม่ดี

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทฯในช่วงดังกล่าวถือว่าเกินเป้าหมายที่วางไว้ แม้ว่าช่วงเดือนมกราคมยอดขายจะชะลอตัวลงหลังเหตุการณ์ระเบิดปลายปีในหลายพื้นที่ แต่สถานการณ์เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติโดยเฉพาะช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ซึ่งมียอดขายเติบโตถึง 30%

นายเกรียงศักดิ์ กล่าวยังกล่าวอีกว่า ด้านปัจจัยบวกสำหรับสยามพารากอนคือ การสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์ตลอด 1 ปีกว่าที่ผ่านมา ทั้งกลุ่มเป้าหมายลูกค้าในประเทศ และกลุ่มนักท่องเที่ยวรวมถึงต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 60% และ 35-40% ตามลำดับ ประกอบกับจุดแข็งของความเป็นศูนย์รวมทางไลฟสไตล์ และศูนย์รวมบริการที่ตอบรับกลุ่มเป้าหมายครอบครัว ส่งผลให้บริษัทฯมีจำนวนลูกค้าหมุนเวียนและยอดขายเติบโตขึ้น

ดังนั้นบริษัฯจะมีแผนการตลาดในช่วงที่เหลือของปีนี้ให้เพิ่มมากขึ้น และจะให้ความสำคัญกับการทำแคมเปญเพื่อเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยว และสินค้าฟุ่มเฟือยเป็นหลัก ตลอดจนความถี่ในการจัดกิจกรรมอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง โดยภาพรวมปีนี้บริษัทฯจะจัดกิจกรรมทั้งหมด 500 อีเว้นต์ เพิ่มจากปีที่ผ่านมาซึ่งจัดไป 300-400 อีเว้นต์ คาดว่าจะมีรายได้จนถึงสิ้นปีเติบโต 10-15%

ล่าสุด บริษัทฯร่วมกับบัตรเครดิตซิตี้แบงก์ จัดแคมเปญสยามพารากอน ไฟน์ ไดนิ่ง พาราไดซ์ บาย ซิตี้แบงก์ โดยรวบรวมร้านอาหารนานาชาติระดับ 5 ดาวในโซนไดนิ่ง พาราไดซ์ ชั้นจี สยามพารากอน เช่น คริสตัล เจด เลอโนท คาบูริ มันน่า ไทย สกาลา เป็นต้น มอบส่วนลดให้กับลูกค้าที่ใช้จ่ายผ่านบัตรซิตี้แบงก์ 5-10% และทุกๆ 1,000 บาทจะได้รับแสตมป์ 1 ครั้ง สะสมครบ 6 ครั้งรับบัตรกำนัลมูลค่า 500 บาท พร้อมกับเข้าร่วมเวิร์คชอปปรุงอาหาร จนถึงวันที่ 30 มิถุนายนศกนี้

Source : Manager Online