"พฤณฑ์"คาดม๊อบการบินไทยยุติเร็วๆนี้ ชี้ข้อเรียกร้องยอมรับได้

Submitted by admin on

"พฤณฑ์"ขอโทษผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบ สั่งเร่งเจรจา คาดได้ข้อยุติแน่นอน หลังฝ่ายบริหารรับข้อเสนอขึ้นเงินเดือนเป็น 7.5% ส่วนโบนัสรอตลาดหลักทรัพย์รับรองผลประกอบการ พนักงานการบินไทยปักหลักชุมนุม กระทบกว่า 30 เที่ยวบินดีเลย์ เหตุขาดพนักงานขับรถลากกระเป๋า ขาเข้าจากลอนดอนรอกระเป๋า 2 ชม.ผู้โดยสารบ่นอุบ ด้านทอท.ตั้งศูนย์ประสานงานดูแลผู้โดยสาร เผยเที่ยวบินเริ่มล่าช้าน้อยลงตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ

พล.อ.พฤณฑ์ สุวรรณทัต รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมในฐานะกำกับดูแลการบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ได้ให้นายสรจักร เกษมสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทยและผู้บริหารเร่งเจรจาทำความเข้าใจกับพนักงานเพื่อยุติปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด ซึ่งคาดว่าการชุมนุมจะไม่ยืดเยื้อไปมากกว่านี้ เพราะเงื่อนไขที่พนักงานเรียกร้องสามารถพูดคุยกันได้ ขอให้ทุกคนเห็นประเทศและอย่าทำให้ประชาชนผู้โดยสารที่ใช้บริการได้รับความเดือดร้อน ซึ่งในฐานะที่กำกับดูแลการบินไทยต้องขอโทษผู้โดยสารทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้ แทนผู้บริหารและพนักงานด้วย โดยจะเร่งแก้ปํญหาโดยเร็วที่สุด

ส่วนการที่พนักงานไม่พอใจนายอำพนและเรียกร้องให้ปลดออกจากประธานบอร์ดการบินไทยนั้น พล.อ.พฤณฑ์กล่าวว่า ข้อเรียกร้องของพนักงานที่ต้องการให้ปลดคนออก แล้วชุมนุมจากระทบต่อการมหบริการคงไม่เกี่ยวกัน ตอนนี้ขอให้เจรจาประเด็นโบนัสและเงินเดือนที่เรียกร้องตอนแรกก่อน ซึ่งจากที่ได้ไปให้นโยบายการบินไทยไว้นั้นก็ต้องการให้ดูแลพนักงานให้ดีเพราะเป็นหัวใจของการทำงานการให้บริการ

รายงานล่าสุดแจ้งว่า นายสรจักรนำทีมผู้บริหารคือนายโชคชัย ปัญญายงค์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสสายกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ และนายปานฑิต ชนะภัย กรรมการผู้จัดการหน่วยธุรกิจการบริการภาคพื้น หารือกับแกนนำสหภาพการบินไทย นำโดยนางแจ่มศรี สุกโชติรัตน์ ประธานสหภาพฯ โดยฝ่ายบริหารยอมที่จะปรับเงินเดือนให้เป็น 7.5%ตามข้อเรียกร้อง ส่วนโบนัสนั้น หากผลประกอบการมีกำไร 7,000 ล้านบาทตามที่พนักงานระบุว่าเป็นข้อมูลของนายอำพนจะได้ 2 เดือน ทั้งนี้ให้รอตบาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตรวจสอบข้อมูลก่อนหากไม่ถึงสามารถปรับลดได้ แต่ยืนยันว่าจะมากกว่า 1 เดือนแน่นอน

น.ส.วิไลวรรณ นัดวิไล ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.กล่าวว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ตั้งศูนย์ประสานงานเพื่อดูแลผู้โดยสารพร้อมกับบริการน้ำดื่ม และได้ประสานงานกับการบินไทยตลอดเวลาเพื่อแก้ปัญหาโดยเฉพาะขาดพนักวานขัยรถขนสัมภาระกระเป๋าที่ลำเบียงจากเครื่องบินเข้าสู่ระบบสายพานลำเลียง ซึ่งเป็นงานเทคนิคเฉพาะคนขับต้องมีไลเซนต์ ซึ่ฝทำให้ผู้โดยสารขาเข้าต้องเสียเวลารอกระเป๋านาน ซึ่งนานที่สุดถึง 2 ชั่วโมงเป็นเที่ยวบินจากลอนดอนที่มาถึงสุวรรณภูมิเมื่อช่วงเช่้าวันที่ 19 มกราคม ส่วนเที่ยวบินขาออกจะล่าช้าประมาณ 30 นาที

โดยล่าสุดตั้งแต่เวลา 20.45 น. ความล่าช้าของเที่ยวบินเริ่มน้อยลงแล้ว เนื่องจากขอความร่วมมือพนักวานของการบินไทยเข้ามาทำเสริมในส่วนที่ขาด

นายสรจักร เกษมสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ การบินไทยกล่าวว่า กรณีเกิดเหตุการณ์เที่ยวบินของการบินไทยล่าช้าในบางเที่ยวบิน ตั้งแต่เวลา 00.01–17.00 น. ของวันนี้ (19 มกราคม 2556) มีเที่ยวบินระหว่างประเทศล่าช้า จำนวน 24 เที่ยวบิน จากจำนวน64 เที่ยวบิน เฉลี่ยระยะเวลาล่าช้าประมาณ 31 นาที ส่วนเที่ยวบินภายในประเทศมีเที่ยวบินล่าช้าจำนวน 8 เที่ยวบิน จากจำนวน 23 เที่ยวบิน เฉลี่ยระยะเวลาล่าช้าประมาณ 25 นาที โดยฝ่ายบริหารทุกฝ่ายได้เร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตามการบินไทยขอยืนยันว่าไม่มีการยกเลิกเที่ยวบินและยังสามารถบริหารจัดการให้มีการปฏิบัติการบินได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ การบินไทยต้องขออภัยในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นจากความล่าช้าของเที่ยวบินดังกล่าว ทั้งนี้ ผู้โดยสารสามารถสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับเวลาทำการบินของเที่ยวบินต่างๆ ได้ที่ THAI Contact Center (02) 356 -1111 (ตลอด 24 ชั่วโมง) หรือ เว็บไซต์ www.thaiairways.com

รายงานข่าวแจ้งว่า กรณีเที่ยวบินการบินไทยเกิดความล่าช้ามีสาเหตุมาจากพนักงานการบินไทยได้ชุมนุมประท้วงกันมาตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 18 มกราคม หลังจากทราบมติที่ประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด) ที่มีนายอำพน กิตติอำพน เป็นประธาน จ่ายโบนัสปี 2555 จำนวน1 เดือนและปรับเงินเดือน 4% โดยเรียกร้องให้นายอำพนชี้แจง

เนื่องจากเป็นผู้มีอำนาจและเคยให้ข้อมูลว่าบริษัทมีกำไรถึง 7,000 ล้านบาท ส่วนการปรับเงินเดือนเพียง 4% ไม่ยุติธรรมและไม่เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่มีเพียงนายสรจักรที่พยายามชี้แจงพนักงานตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา แต่ไม่เป็นผลพนักงานปักหลักชุมนุมยืดเยื้อ โดยไม่มีการหยุดงานแต่ จะทำงานแบบ Slow Down แทน ทำให้เกิดปัญหาเที่ยวบินล่าช้า โดยเฉพาะการจัดการกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสาร