หวั่นขายหน้าเปิดสุวรรณภูมิ 4 เดือนย้ายกลับ

Submitted by admin on

พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ รมว.คมนาคมได้เปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการกรณีที่มีข่าวว่าบอร์ด ทอท.มีมติให้ย้ายสายการบินในประเทศกลับไปใช้สนามบินดอนเมืองว่า กระทรวงคมนาคมยังไม่ได้รับผลการศึกษาอย่างเป็นทางการ และตนยังไม่เคยบอกว่าจะเสนอ ครม. เพื่ออนุมัติการย้ายสนามบินภายใน 2 สัปดาห์ แต่ยอมรับว่าที่ผ่านมาได้สั่งการเป็นนโยบายให้ศึกษาการใช้ประโยชน์สนามบินดอนเมืองว่าจะใช้ประโยชน์อย่างไรให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือนเพราะมองว่าสนามบินดอนเมืองยังมีประโยชน์อยู่ การปล่อยทิ้งไว้จะไม่เกิดประโยชน์

อย่างไรก็ตาม การที่มีนโยบายให้ย้ายสายการบินบางส่วนจากสนามบินสุวรรณภูมิไปให้ บริการที่สนามบินดอนเมืองเพราะมีความแออัด สร้างส่วนต่อเพิ่มไม่ทันนั้น ตนมองว่าไม่มีเหตุผลเพียงพอ ในเมื่อสนามบินสุวรรณภูมิเพิ่งจะก่อสร้างแล้วใช้งบประมาณก่อสร้างเป็นแสนล้าน

และเพิ่งเปิดให้บริการได้เพียง 4 เดือน การมีข่าวย้ายไปย้ายมาจะทำให้เกิดความสับสนกับชาวต่างชาติ แต่หากมีปัญหาจริงย้ายไปเพื่อปรับปรุงที่สนามบินสุวรรณภูมิ เราก็ต้องชัดเจนว่าย้ายไปแล้วต้องย้ายกลับ

“สนามบินสุวรรณภูมิมีปัญหาทุกคนรับรู้ ทั้งในเรื่องของห้องน้ำไม่พอ แท็กซี่เวย์ร้าวและล่อน ระบบรักษาความปลอดภัยไม่ดี ทุกคนรับทราบซึ่งผมก็รู้และเห็นมาตั้งแต่เมื่อเข้ามารับตำแหน่ง แต่ จะมีมากหรือน้อยก็ต้องอดทนในการแก้ไขปัญหา จะทำอะไรตามใจตัวเองทุกอย่างคงไม่ได้ แต่ปัญหาหลักที่แท้จริงคือการบริหารการจัดการที่ผู้บริหารจะต้องรู้ว่าจะต้องทำอย่างไรบ้างเพื่อให้เกิดปัญหาน้อยที่สุด ไม่ใช่เจอปัญหาแล้วหนีปัญหาก็จะเหมือนถอยหลังเข้าคลอง อย่าลืมว่าขณะนี้สิงคโปร์ จ้องมองเราอยู่ ยังมีเวียดนามอีกประเทศหากเขายืนขึ้นมาได้เราจะแข่งกับเขาได้อย่างไร”

นอกจากนี้ พล.ร.อ.ธีระยังได้กล่าวต่อถึงกรณีแท็กซี่เวย์ของสนามบินสุวรรณภูมิได้เกิดล่อน ต้องมีการซ่อมแซมหลายจุดว่า ได้สั่งการให้ ทอท.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานงานกับวิศวกรอิสระเข้าไปสำรวจในรายละเอียดว่ามีกี่จุดที่จะมีปัญหา และปัญหาที่แท้จริงเกิดขึ้นจากอะไร

ด้านนายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม รมช.คมนาคม กล่าวถึงกรณีบอร์ด ทอท. มีมติให้ย้ายเที่ยวบินภายในประเทศแบบจุดต่อจุดกลับมาใช้สนามบินดอนเมืองว่า เกิดจากมีปริมาณของผู้โดยสารที่มาใช้บริการที่สนามบินสุวรรณภูมิมีความหนาแน่นมาก แม้ว่าสนามบินสุวรรณภูมิจะรองรับผู้โดยสารได้ถึง 45 ล้านคน/ปีก็จริง แต่ในปัจจุบันรับผู้โดยสารไปแล้วกว่า 43 ล้านคน ขณะที่โครงสร้างของสนามบินสุวรรณภูมิยังมีปัญหา ทั้งในเรื่องของการแตกร้าวของรันเวย์และแท็กซี่เวย์ที่มีมากถึงกว่า 60 จุด นอกจากนั้น ปัญหาที่เกิดขึ้นภายในอาคารผู้โดยสาร ทั้งในเรื่องของระบบทำความเย็นที่เย็นไม่ทั่วถึงทั้งอาคาร การปิดปรับปรุงพื้นที่อาจส่งผลต่อการทำพิธีเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิอย่างเป็นทางการ ซึ่งไม่มั่นใจว่าจะสามารถทำพิธีเปิดได้ภายในปีนี้หรือไม่

ทั้งนี้ เห็นว่าหากสามารถแบ่งผู้โดยสารบางส่วนให้กลับมาใช้สนามบินดอนเมืองได้ก็จะเป็นสิ่งที่ดี เนื่องจากสนามบินดอนเมืองยังมีสภาพที่ดีและพร้อมในการใช้งาน ซึ่งการใช้สนามบิน 2 แห่งควบคู่กันไปก็ไม่น่าจะมีปัญหา โดยในวันที่ 19 ม.ค.นี้ จะเรียกผู้บริหารสายการบินต่างๆ ทั้งสายการบินโลว์คอสต์ สายการบินในประเทศและต่างประเทศมาประชุมหารือเพื่อรับฟังความคิดเห็นและชี้แจงทำความเข้าใจอีกครั้ง

นายยอดเยี่ยม เทพธรานนท์ กรรมการบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานคณะทำงานศึกษาปัญหาโครงสร้างอาคารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวถึงปัญหาพื้นผิวทางขับแท็กซี่เวย์ร้าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น ไม่ได้มาจากสาเหตุการทุจริตหรือมีการลดสเปกของวัสดุที่ใช้ก่อสร้าง แต่ถือเป็นกรณีศึกษาที่สำคัญของงานทางด้านวิศวกรรม ซึ่งอาจมาจากสาเหตุใดสาเหตุหนึ่งหรือหลายสาเหตุรวมกันจาก 3 ปัจจัยที่มาจากการออกแบบและเลือกใช้วัสดุก่อสร้าง หรือขณะการก่อสร้างมีปัญหาทำตามแบบหรือไม่ และปัญหาน้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมาซึ่งอาจมีผลต่อโครงสร้างผิวแท็กซี่เวย์ “ถ้าเป็นเรื่องของการลดสเปกของวัสดุ การตรวจสอบก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่หากไม่ใช่ก็ต้องไปตรวจสอบในเชิงลึกอีกครั้งว่าปัญหามาจากปัจจัยใด อาจเป็น 1 ใน 3 ข้อ หรืออาจเป็นปัจจัยรวมกันก็ได้”

สำหรับปัญหาของโครงสร้างอาคารที่คณะทำงานต้องเร่งแก้ไขปัญหาโดยด่วน คือเรื่องปัญหาระบบแอร์ปรับอากาศของอาคารที่พักผู้โดยสารที่ไม่เย็นทั่วถึง ซึ่งคณะทำงานวิตกว่าเมื่อย่างเข้าสู่เดือนเมษายนนี้ อุณหภูมิทั่วไปสูงขึ้นจะทำให้สภาพอุณหภูมิในอาคารยิ่งสูงขึ้นอีก จึงต้องเร่งหาทางแก้ไขปัญหานี้โดยเร็ว

ด้านเรืออากาศโทอภินันทน์ สุมนะเศรณี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) เผยว่า กรณีที่ผู้มาใช้บริการของสายการบินไทยร้องเรียนว่าไม่ได้รับความสะดวกสบายที่เครื่องบินไม่สามารถเข้ามาเทียบสะพานจอดได้นั้น เป็นความบกพร่องและผิดพลาดของ ทอท. ที่ไม่สามารถใช้ระบบสารสนเทศในการควบคุมได้ดีพอ เมื่อเที่ยวบินล่าช้าจึงทำให้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงประตูการเทียบเครื่องบินได้ ผิดกับบริการที่ท่าอากาศยานดอนเมืองซึ่งสามารถปรับตัวได้ยืดหยุ่นกว่า ซึ่งเรื่องนี้การบินไทยได้หารือร่วมกับ ทอท.เพื่อแก้ไขปัญหาแล้วคาดว่าจะใช้งานได้สมบูรณ์ภายใน 2 เดือนนี้.

Source : Thairath