โลว์คอสท์ลาวเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "ลาวเซ็นทรัลแอร์ไลนส์"

Submitted by admin on

ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- สายการบินแบบต้นทุนต่ำแห่งแรกของลาวซึ่งเป็นของเอกชน ได้ประกาศเปลี่ยนชื่อจาก “สายการบินพงสะหวัน” เป็น "ลาวเซ็นทรัลแอร์ไลนส์" แล้ว เพื่อให้สอดคล้องวิสัยทัศน์และ เป้าหมายของบริษัทที่ต้องการไปสู่การเป็นสายการบินที่ได้มาตรฐานสากล สื่อของทางการกล่าว

สัปดาห์ที่แล้วสายการบินแห่งนี้เซ็นความตกลงฉบับหนึ่งกับบริษัทไพรซ์วอเตอร์เฮ้าส์คูเปอร์ส (PricewaterhouseCoopers) ให้เป็นที่ปรึกษาและทำการศึกษาแผนการเงินกับแผนธุรกิจของบริษัทที่ตั้งเป้าจะเปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์เวียงจันทน์-กรุงเทพฯ ในปลายปีนี้ หนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ใหม่กล่าว

ผู้บริหารของลาวเซ็นทรัลแอร์ไลนส์ เปิดเผยกับหนังสือพิมพ์ "ประชาชน" ก่อนหน้านี้ เกี่ยวกับแผนการบินเชื่อมเวียงจันทน์-กรุงเทพฯ ไปกลับวันละ 4 เที่ยว โดยจะเริ่มในเดือน ก.ย.ศกนี้ หรือ ก่อนสิ้นปีนี้ด้วยแอร์บัส A320-200 ขนาด 150 ที่นั่ง จำนวน 2 ลำ

สายการบินนี้มีแผนการจะเปิดให้บริการเส้นทางอื่นๆ คือ เวียงจันทน์-ฮานอย เวียงจันทน์-คุนหมิง และ เวียงจันทน์-เสียมราฐ ในเวลาต่อไป

ก่อนหน้านี้ พงสะหวันแอร์ไลนส์ได้วางตัวเองเป็น "พรีเมียมโลว์คอสท์" ให้บริการทั้งชั้นธุรกิจและชั้นประหยัด ปัจจุบันเครื่องบินแอร์บัสที่ซื้อมือสองทั้ง 2 ลำ พร้อมแล้ว รวมทั้งนักบินอินเดียสัญชาติไทย 2 คน กับพนักงานบริการบนเครื่องอีก 10 คน หนังสือพิมพ์ของทางการนครเวียงจันทน์กล่าว

ลาวเซ็นทรัลแอร์ไลนส์ เป็นของกลุ่มพงสะหวันเจ้าของธนาคารชื่อเดียวกันซึ่งเป็นแบงก์เอกชนลาวถือหุ้น 100% แห่งแรก เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2552 กลุ่มนี้ยังมีธุรกิจค้าไม้และธุรกิจก่อสร้างอีกด้วย

กัมพูชาเปิดถนนเชื่อมต่อภูมิภาคทางหลวงสายอาเซียน

Submitted by admin on

ซินหัว - นายกรัฐมนตรีฮุนเซน ของกัมพูชา เข้าร่วมพิธีเปิดใช้ถนนระยะทาง 9 กม. ส่วนหนึ่งของทางหลวงหมายเลข 1 ที่เป็นถนนสายหลักของเครือข่ายถนนในโครงการทางหลวงอาเซียน (ASEAN highway) เชื่อมต่อกรุงพนมเปญ และนครโฮจิมินห์ของเวียดนาม

ถนนระยะทาง 9 กม. นี้สร้างขึ้นตั้งแต่เดือนธ.ค. 2552 ภายใต้เงินทุนช่วยเหลือของญี่ปุ่น จำนวน 25 ล้านดอลลาร์

ในระหว่างพิธีเปิดถนนในกรุงพนมเปญ นายกรัฐมนตรีฮุนเซน กล่าวว่า ทางหลวงหมายเลข 1 เป็นถนนเส้นสำคัญระหว่างประเทศในกัมพูชาที่เชื่อมต่อกรุงพนมเปญกับนครโอจิมินห์ของเวียดนาม ทั้งยังเป็นส่วนสำคัญของเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจด้านใต้ (Southern Economic Corridor) และทางหลวงสายอาเซียนที่เชื่อมนครโฮจิมินห์ กรุงพนมเปญ และกรุงเทพ

"ถนนสายนี้มีบทบาทสำคัญสำหรับประชาชนในการเดินทางและขนถ่ายสินค้าในภูมิภาค" นายกฯฮุนเซน กล่าว และว่าเมื่อสะพานนีกเลือง (Neak Loeung) ที่ได้รับทุนจากญี่ปุ่นเช่นเดียวกันนั้น ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี 2558 ทางหลวงอาเซียนในส่วนของกัมพูชาจะใช้การได้อย่างเต็มรูปแบบ

จนถึงปัจจุบัน ญี่ปุ่นมอบเงินทุนให้กับกัมพูชาแล้วราว 2,000 ล้านดอลลาร์ ที่ส่วนใหญ่อยู่ในรูปของเงินช่วยเหลือ

นายมาซาฟุมิ คุโรกิ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำกัมพูชา กล่าวในพิธีว่า ญี่ปุ่นหวังให้การช่วยเหลือนี้ช่วยส่งเสริมมิตรภาพระหว่างญี่ปุ่นและกัมพูชา และประชาชนของทั้งสองประเทศที่มีอย่างยาวนานให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น

"เราหวังให้ถนนสายนี้ช่วยกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจของกัมพูชาและลดปัญหาความยากจน" นายคุโรกิ กล่าว.

Manager Online

สนามบินย่างกุ้งเฟื่อง นักท่องเที่ยวเข้าทางเครื่องบินมากขึ้นเรื่อยๆ

Submitted by admin on

ซินหัว - หนังสือพิมพ์นิวไลท์ออฟเมียนมาร์ของพม่า รายงานวันนี้ (11 ส.ค.) ว่า สนามบินนานาชาติกรุงย่างกุ้งต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางจากสายการบินระหว่างประเทศแล้ว 510,000 คน และนักเดินทางในท้องถิ่นจากสายการบินภายในประเทศ 360,000 คน ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2554 เพิ่มขึ้น 21.65% และ 23.47% ตามลำดับ เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

กรมการบินพลเรือนพม่ากล่าวว่า สนามบินนานาชาติย่างกุ้งสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 2.7 ล้านคนต่อปี และในปัจจุบันสนามบินมีผู้โดยสารใช้บริการมากกว่า 2 ล้านคนต่อปี และจะเพิ่มไปจนถึงจำนวนที่รองรับได้สูงสุดในอีกไม่นาน

พม่ามีแผนที่จะขยายและยกระดับสนามบินนานาชาติกรุงย่างกุ้งให้ได้มาตรฐานนานาชาติที่สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 3.8 ล้านคนต่อปี และให้บริการเต็มรูปแบบเพื่อให้เป็นสนามบินนานาชาติอย่างแท้จริง ซึ่งแผนการขยายและยกระดับนั้น เป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและภาคเศรษฐกิจ ให้สอดคล้องกับแนวทางการเป็นประเทศใหม่ของพม่า

ทั้งนี้ ความสามารถในการขนส่งผู้โดยสารด้วยการคมนาคมทางอากาศภายในประเทศพม่าเพิ่มขึ้นถึง 40 เท่า จากในอดีตที่สามารถขนส่งผู้โดยสารได้เฉลี่ยเพียง 20,000 คนต่อปี เพิ่มเป็น 800,000 คนต่อปี ขณะที่ผู้โดยสารจากเที่ยวบินต่างชาติเพิ่มเป็นถึง 700,000 คนต่อปี จาก 50,000 คน

พม่ามีสายการบินภายในประเทศ 6 สายการบิน ประกอบด้วย สายการบินเมียนมาร์แอร์เวย์ส ที่รัฐเป็นเจ้าของ และสายการบินของเอกชนอีก 5 สายการบิน คือ แอร์มัณฑะเลย์ ย่างกุ้งแอร์เวย์ส แอร์บากาน เอเชียนวิงส์ และกันบอซา นอกจากนั้น ยังมีสายการบินเมียนมาร์อินเตอร์เนชันแนลแอร์ไลน์ หรือ เมียนมาร์แอร์เวย์สอินเตอร์เนชันแนล ที่ให้บริการเที่ยวบินต่างประเทศเพียงอย่างเดียว

คนไทยเที่ยวในประเทศโตกว่า 17% ปายขึ้นอันดับหนึ่ง - เชียงใหม่รั้งที่ห้า

Submitted by admin on

กรมการท่องเที่ยว คลอดสถิติคนไทยเที่ยวในประเทศครั้งแรก หลังรับโอนจาก ททท.มาหลายปี ระบุปี 2553 คนไทยเที่ยว 101.33 ล้านคนครั้งโตกว่า 17% ทะลุเป้าหมายของ ททท.ที่วางไว้ ชี้ ปายขึ้นแท่นอันดับ 1 คนไทยแห่เที่ยว เชียงใหม่รั้งอันดับ 5 ด้านผู้ว่า ททท. พร้อมปรับเพิ่มเป้าคนไทยเที่ยวปีนี้ พร้อมปรับแผนเพิ่มการใช้จ่ายต่อคนต่อทริป

นายสุพล ศรีพันธุ์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ทางกรมฯได้จัดทำสถิตินักท่องเที่ยวคนไทยเที่ยวในประเทศ ประจำปี 2553 เสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งถือเป็นการประกาศตัวเลขสถิตินักท่องเที่ยวคนไทย อย่างเป็นทางการครั้งแรกตั้งแต่ได้รับโอนงานมาจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยพบว่า คนไทยเดินทางเที่ยวในประเทศ มีจำนวนรวม 101.33 ล้านคนครั้ง (1 คน อาจเที่ยวมากกว่า 1 ครั้งต่อปี) เพิ่มจากปี 2552 ซึ่งเดินทางอยู่ที่ 86.4 ล้านคนครั้ง หรือเพิ่มขึ้น 17.29% สร้างรายได้เป็นเงินหมุนเวียนภายในประทเศ 4.02 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.04% จากปี 2552 ที่มีเงินหมุนเวียนอยู่ที่ 2.64 แสนล้านบาท การจัดเก็บยังพบว่า จำนวนวันพักค้างคืนเฉลี่ยของคนไทยเที่ยวในประเทศ ในปี 2553 อยู่ที่ 2.59 วัน เพิ่มจากปี 2552 ซึ่งพักเฉลี่ยอยู่ที่ 2.35 วัน มีการใช้จ่ายที่ 1,736.38 บาทต่อคนต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปี 2552 ราว 12.72%

สถิติดังกล่าวเป็นตัวเลขที่สูงกว่าการคาดการณ์ของ ททท. ที่ประเมินว่าปี 2553 จะมีคนไทยเดินทางเที่ยวในประเทศ อยู่ที่ 90 ล้านคนครั้ง สร้างรายได้ 4 แสนล้านบาท ขณะที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวคนไทยเที่ยวในประเทศไตรมาสแรกปี 2554 (ม.ค. - มี.ค.) จัดทำเสร็จแล้ว อยู่ระหว่างการตรวจสอบอีกครั้ง จึงยังไม่สามารถเปิดเผยได้

ทีจีปรับลุคใหม่ ทุ่มงบ 5 พันล้าน เนรมิตโฉมโบอิ้ง 20 ลำ ดึงลูกค้าเพิ่ม 20%

Submitted by admin on

การบินไทยทุ่ม 5,000 ล้านบาท ปรับปรุงเก้าอี้โดยสาร ติดตั้งจอทีวีส่วนตัวชั้นประหยัด รวม 20 ลำ หวังดึงผู้โดยสารเพิ่ม 10-20%

นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การบินไทยได้เริ่มปรับปรุงห้องโดยสาร และการบริการบนเครื่องบินแบบโบอิ้ง 747-400 ซึ่งมีการปรับปรุงที่นั่งจุผู้โดยสารและติดตั้งจอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง รวมถึงชั้นประหยัดด้วย เพื่อตอบสนองความพึงพอใจของผู้โดยสาร และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน

ทั้งนี้ การบินไทยได้ลงทุนปรับปรุงห้องโดยสารและผลิตภัณฑ์บริการบนเครื่องบิน 20 ลำ วงเงิน 5,000 ล้านบาท โดยเครื่องบินแบบโบอิ้ง 747-400 ลำแรก ได้แบ่งการปรับปรุงออกเป็น 2 ชุด ชุดละ 6 ลำ ชุดแรกจะปรับปรุงและติดตั้งเก้าอี้ใหม่ให้มีจอทีวีส่วนตัว พร้อมระบบสาระบันเทิงในชั้นประหยัดทุกที่นั่ง

“คาดว่า 6 ลำแรกจะแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2554 นี้ ส่วนอีก 6 ลำที่เหลือ จะทำการติดตั้งที่นั่งใหม่พร้อมจอทีวีส่วนตัว และระบบสาระบันเทิงในทุกชั้นโดยสาร คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2555”

ส่วนอีก 8 ลำ ซึ่งเป็นเครื่องบินแบบโบอิ้ง 747-777 จะมีการติดตั้งจอทีวีในชั้นประหยัดทุกที่นั่งเช่นกัน โดยจะเริ่มทยอยปรับปรุงและติดตั้งระบบดังกล่าวในช่วงเดือนกันยายน 2554 คาดแล้วเสร็จประมาณเดือนตุลาคม 2555

ทั้งนี้ การบินไทย คาดว่า ภายในไตรมาส 3 ปี 2555 จะมีเครื่องบินที่มีระบบสาระบันเทิงและที่นั่งใหม่ครบทั้ง 20 ลำ ซึ่งจะให้บริการในเส้นทางบินระหว่างประเทศ โดยเฉพาะยุโรป พร้อมทั้งเชื่อมั่นว่า จะสามารถดึงดูดผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวให้หันมาใช้บริการของการบินไทยเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 10-20% ส่วนคาดการณ์ผู้โดยสารต่อเที่ยวบินตลอดทั้งปีนี้จะอยู่ที่ 75% ถือว่าอยู่ในภาวะปกติ

Manager Online

ททท.ผุดกองอำนวยการฯ ช่วยนักเที่ยว / ตราสัญลักษณ์ ททท.จดลิขสิทธิ์แล้ว

Submitted by admin on

อนุมัติเงินกองทุนส่งเสริมการท่องเที่ยว 6.9 ล้านบาท ฟื้นศูนย์อำนวยการช่วยเหลือนักท่องเที่ยว พร้อมเร่งตั้งกองอำนวยการและช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ขึ้นตรงสำนักปลัดฯ ด้านกรมทรัพย์สินทางปัญญา รับจดลิขสิทธิ์ตราสัญลักษณ์ ททท. แล้ว

นางธนิฎฐา เศวตศิลา มณีโชติ รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาโครงสร้างการจัดตั้งกองอำนวยการและช่วยเหลือนักท่องเที่ยว โดยจะเป็นกองที่ขึ้นตรงกับสำนักปลัด แต่เพื่อให้การดูแลนักท่องเที่ยวเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ล่าสุด คณะกรรมการเงินกองทุนส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งมีนายสมบัติ คุรุพันธุ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยว เป็นประธานฯ ได้อนุมัติงบ 6.9 ล้านบาท จัดตั้งศูนย์อำนวยการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวและใช้จ่ายในการดำเนินงานตลอดปี 2554 โดยเริ่มให้บริการมาตั้งแต่เดือน พ.ค. 54 ที่สนามบินสุวรรณภูมิ , กระทรวงการท่องเที่ยวฯถนนราชดำเนิน และ กรมการท่องเที่ยว เขตปทุมวัน แต่จะทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 19 ส.ค.54 ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ฟื้นศูนย์ฯช่วยเหลือนักท่องเที่ยว

“ในช่วงปี 48-51 ทางกระทรวงมีศูนย์บริการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อสิ้นสุดโครงการ ก็ยังไม่ได้ต่ออายุ ซึ่งทางกระทรวงมองเห็นความสำคัญตรงจุดนี้ จึงฟื้นโครงการนี้ขึ้นมาอีก เพื่อแก้ปัญหาการหลอกลวงนักท่องเที่ยว โดยใช้เงินจากกองทุนส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยที่สนามบินสุวรรณภูมิ จะตั้งเป็นบูท เหมือนของ ททท. และแอตต้า แต่จะขึ้นป้ายว่ารับเรื่องร้องเรียนเป็นภาษาอังกฤษ ปัจจุบันมีพนักงานให้บริการ 14 คน ทำงาน 3 กะ ให้บริการได้ 6 ภาษา คือ อังกฤษ เกาหลี จีน ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส และ สเปน โดยในอนาคต จะเพิ่มพื้นที่ให้บริการและกำลังคนให้เพียงพอ”

บางกอกแอร์เวย์สคาดปีนี้โกยรายได้หมื่นล. คนไทยแห่เที่ยวหลังการเมืองนิ่ง

Submitted by admin on

บางกอกแอร์เวย์ส มั่นใจรายได้ปี 54 ตามเป้า 1.06 หมื่นล้านบาท ชี้ปัจจัยหลักสถานการณ์ในประเทศนิ่ง กระตุ้นคนไทยเที่ยวเพิ่ม เผยเฉพาะคนไทยใช้บริการเพิ่มเกือบ 30% เตรียมทุ่ม 50 ล้านบาท ออกหนังโฆษณาตัวใหม่เจาะตลาดคนไทยต่อเนื่อง ชี้ธุรกิจการบินแข่งขันสูงเปลี่ยนแปลงเร็ว นโยบายรัฐบาลต้องปรับให้ทัน จ่อเปิดบินเมืองบังกาลอร์ เพิ่ม พ.ย.นี้ ยันสนบริหาร 28 สนามบินบพ. รอคมนาคมสรุปรูปแบบก่อน

นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด ผู้ให้บริการสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เปิดเผยว่า ผลประกอบการในปี 2554 คาดว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายโดยมีรายได้รวมประมาณ 10,600 ล้านบาทสูงกว่าปีก่อนที่มีรายได้ 8,300 ล้านบาทประมาณ 29% มีจำนวนผู้โดยสารประมาณ 3.1 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีผู้โดยสาร 2.6 ล้านคน หรือประมาณ 17% โดยช่วง 6 เดือนที่ผ่านมามีรายได้รวมแล้ว 5,200 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าช่วง 6 เดือนของปีก่อนที่มีรายได้ 4,000 ล้านบาท

ปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้มีการเดินทางและท่องเที่ยวมากขึ้น คือ สถานการณ์ความสงบภายในประเทศ ส่งผลให้มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้น ประกอบกับในปี 2553 ที่ผ่านมา บริษัทได้ปรับแผนการตลาด โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวคนไทยมากขึ้น ซึ่งปีที่ผ่านมามีผู้โดยสารคนไทย 530,000 คนหรือประมาณ 20% และตั้งเป้าในปีนี้ เพิ่มเป็น 700,000 คน ซึ่งเส้นทางภายในประเทศที่มีผู้โดยสารให้ความนิยมสูง คือ กรุงเทพฯ-สมุย รองลงมาคือ กรุงเทพ-ภูเก็ต 6 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ มีอัตราบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ย 70% กรุงเทพ-เชียงใหม่ และเชียงใหม่-สมุย อัตราบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยที่ 80%

“ดอนเมือง” แจงย้ายเที่ยวบินใน ปท.ราบรื่น ตำหนิอ่อนพีอาร์ทำตกเครื่อง

Submitted by admin on

ผอ.สนามบินดอนเมือง แจงย้ายบริการในประเทศ ไปที่อาคาร 1 วันแรก ราบรื่น-เรียบร้อยดี ขณะที่ผู้ใช้บริการบางส่วนตกเครื่อง เพราะไม่ทราบว่ามีการย้ายเที่ยวบิน-จุดเช็กอิน คาด อ่อนประชาสัมพันธ์

นาวาอากาศโท ประทีป วิจิตรโท ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2554 เป็นต้นไป ทอท.ได้ย้ายการให้บริการเที่ยวบินและผู้โดยสารภายในประเทศที่สนามบินดอนเมือง ไปยังอาคาร 1 เนื่องจาก ทอท.ต้องเตรียมพื้นที่อาคารผู้โดยสารภายในประเทศสำหรับดำเนินโครงการศูนย์ซ่อมอากาศยาน

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ดอนเมืองได้ใช้อาคาร 1 ในการรองรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นเที่ยวบินแบบเช่าเหมาลำ ดังนั้น เมื่อมีการย้ายการให้บริการเที่ยวบินและผู้โดยสารภายในประเทศไปยังอาคาร 1 ทำให้ต้องแบ่งพื้นที่ด้านเหนือของอาคารสำหรับรองรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ และใช้พื้นที่ด้านใต้ของอาคารรองรับเที่ยวบินภายในประเทศ

ปัจจุบัน ท่าอากาศยานดอนเมือง รองรับเที่ยวบินเฉลี่ย 120 เที่ยวบินต่อวัน มีปริมาณผู้โดยสาร 12,000 คนต่อวัน โดยคาดว่า ในช่วงสิ้นปี 2554 นี้ จะมีจำนวนผู้โดยสารมาใช้บริการประมาณ 4 ล้านคน สูงกว่าปีงบประมาณก่อนร้อยละ 44 และซึ่งการย้ายอาคารผู้โดยสารดังกล่าวจะทำให้ท่าอากาศยานดอนเมืองแก้ไขปัญหาการขาดทุนได้ภายใน 5 ปี เพราะปัจจุบันท่าอากาศยานดอนเมืองมีรายได้เดือนละ 50 ล้านบาท ในขณะที่รายจ่ายในการดูแลรักษาสูงถึง 100 ล้านบาท

สำหรับสายการบินที่จะมาใช้บริการสนามบินดอนเมือง ทั้งนกแอร์ และ วันทูโก โอเรียนท์ไทย โซล่า แอร์ มีแผนจะปรับเพิ่มเที่ยวบินให้มากขึ้น รองรับจำนวนผู้โดยสารที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจะมีการปรับใช้เครื่องบินที่มีขนาดใหญ่มากขึ้นด้วย

"ดอนเมือง" เตรียมย้ายสายการบินในประเทศไปใช้อาคาร 1 เริ่ม 1 ส.ค.นี้

Submitted by admin on

ทอท.เผย สนามบินดอนเมือง เตรียมย้ายสายการบินในประเทศไปใช้อาคาร 1 ที่มีขนาดใหญ่กว่า 1 ส.ค.นี้ แจงความพร้อมอำนวยความสะดวก การจัดระบบจราจร ที่จอดรถ และจุดจอดรถสาธารณะ รับ-ส่ง ผู้โดยสาร

นาวาอากาศโทประทีป วิจิตรโท ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท./AOT เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2554 ทอท.จะย้ายการให้บริการเที่ยวบินและผู้โดยสารภายในประเทศที่ ทดม. จากอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ไปยังอาคาร 1 ที่มีขนาดใหญ่กว่า

ทั้งนี้ เนื่องจากทาง ทอท. ต้องเตรียมพื้นที่อาคารผู้โดยสารภายในประเทศสำหรับดำเนินงานตามแผนการใช้ประโยชน์ ทดม. โดยใช้ดำเนินโครงการศูนย์ซ่อมอากาศยาน ขณะที่สิ้นปีงบประมาณ 2554 นี้ คาดว่าจะมีจำนวนผู้โดยสารใช้บริการที่ ทดม. ประมาณ 3.95 ล้านคนสูงกว่าปีงบประมาณ 53 ร้อยละ 44

ทดม. เคยใช้อาคาร 1 ในการรองรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นเที่ยวบินแบบเช่าเหมาลำ ดังนั้น เมื่อมีการย้ายการให้บริการเที่ยวบินและผู้โดยสารภายในประเทศไปยังอาคาร 1 จึงแบ่งพื้นที่ด้านเหนือของอาคารเพื่อรองรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ และใช้พื้นที่ด้านใต้ของอาคารประมาณ 59,495 ตารางเมตร (ตร.ม.) ในการรองรับเที่ยวบินภายในประเทศ ซึ่งอาคาร 1 มีศักยภาพในการรองรับผู้โดยสารประมาณ 16 ล้านคนต่อปี ในขณะที่อาคารผู้โดยสารภายในประเทศซึ่งมีพื้นที่ 41,667 ตร.ม. สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 11 ล้านคนต่อปี

ในส่วนของการเตรียมการด้านบริการที่อาคาร 1 นั้น ทดม. กำหนดพื้นที่ชั้น 3 เป็นส่วนขาออก และพื้นที่ชั้น 1 เป็นส่วนขาเข้า ซึ่งผู้โดยสารระหว่างประเทศ และผู้โดยสารภายในประเทศ จะใช้พื้นที่บริเวณห้องโถงทั้งขาเข้าและขาออกร่วมกัน

แอร์เอเชียผนึก ANA เปิดสายการบินโลว์คอสต์ในญี่ปุ่น เริ่มปีหน้า

Submitted by admin on

แอร์เอเชียสยายปีก จับมือ ANA รุกธุรกิจสายการบินโลว์คอสต์ในญี่ปุ่น เปิดสายการบิน “แอร์เอเชีย แจแปน” เริ่มบินปีหน้า ใช้สนามบินนานาชาติ “นาริตะ โตเกียว” เป็นฐานการบิน

นายโทนี่ เฟอร์นานเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแอร์เอเชีย เปิดเผยว่า ได้จับมือกับ สายการบิน ออลนิปปอนแอร์เวย์ (ANA) เปิดธุรกิจสายการบินราคาประหยัดในประเทศญี่ปุ่นภายใต้ชื่อ “แอร์เอเชีย แจแปน” โดยตั้ง เป็นบริษัท แอร์เอเชีย แจแปน( AirAsia Japan ) สัดส่วนการลงทุน ANA 67% และ AirAsia 33% (Voting-right share basis) ขณะที่ Capital basis แบ่งเป็น ANA 51%, AirAsia 49% มีฐานการบิน ที่สนามบินนานาชาติ นาริตะ (Narita International Airport) เริ่มบินเที่ยวแรก สิงหาคมปี 2555 ขณะนี้อยู่ในระหว่างขั้นตอนการขอใบอนุญาต

“ เป็นครั้งแรกที่แอร์เอเชีย ทำธุรกิจโดยร่วมทุนกับพันธมิตร และแอร์เอเชีย แจแปน ยังเป็นสายการบินราคาประหยัดรายแรก ที่จะใช้สนามบินนานาชาตินาริตะเป็นฐานการบิน โดยเริ่มต้นจะให้บริการเส้นทางบินภายในประเทศญี่ปุ่น และทยอยเปิดเส้นทางบินระหว่างประเทศตามลำดับ”

ทางด้านนาย Shinichiro Ito ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ ANA กล่าวว่า อุตสาหกรรมการบินในประเทศญี่ปุ่นกำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว สืบเนื่องจากข้อตกลงในการเปิดน่านฟ้า และการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นของการคมนาคมภายในประเทศทั้งรถยนต์และรถไฟ ส่วนสนามบินนาริตะถือเป็นศูนย์กลางการบินนานาชาติของกรุงโตเกียว จึงตั้งเป้าหมายเพิ่มจำนวนผู้โดยสาร พร้อมเปิดอาคารพักผู้โดยสารหลังใหม่ เพื่อดึงดูดสายการบินราคาประหยัด และสายการบินต่างชาติให้เข้ามาใช้บริการมากขึ้น