สิงคโปร์ แอร์ฯ เจรจาเขมือบหุ้น 25% สายการบินจีน

เอเจนซี่ - สิงคโปร์ แอร์ไลน์ส ยืนยัน อยู่ในระหว่างคุยความคืบหน้าซื้อหุ้นไชน่าอีสเทิร์น แอร์ไลน์ส ช่องทางล่าสุดสำหรับสายการบินแดนลอดช่องในการเข้าเจาะตลาดการบินที่อนาคตสดใสที่สุดในโลก

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สายการบินรายใหญ่ของโลกต่างกำลังหาช่องทางบุกเจาะตลาดจีน ซึ่งมีแนวโน้มทางเศรษฐกิจขยายตัว รายได้ประชาชนเพิ่มขึ้น รวมทั้งอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่แรงดีไม่ตก และได้อานิสงส์จากการที่ปักกิ่งเป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2008 ซึ่งจะเป็นแม่เหล็กชั้นดีในการดึงดูดลูกค้าของสายการบิน

ล่าสุด ไชน่าอิสเทิร์นอยู่ในระหว่างเจรจาการค้ากับสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส สายการบินรายใหญ่ที่สุดของโลกในด้านมูลค่าตามราคาตลาด โดยแหล่งข่าววงในได้เปิดเผยเมื่อวันอังคาร (22) ระบุ การเจรจาซื้อหุ้นไชน่าอีสเทิร์น ของสิงคโปร์ แอร์ กำลังจะได้ข้อสรุป โดยคาดว่าไชน่าอีสเทิร์นจะจำหน่ายหุ้นตัวใหม่ในกระดานเอชให้แก่สายการบินลอดช่อง 2,045 ล้านหุ้นหรือ 25% เป็นมูลค่า 7,900 ล้านเหรียญฮ่องกง ตกราคาหุ้นละ 3.88 เหรียญฮ่องกง ตามที่นิตยสารไฉจิงรายงานในเว็บไซต์เมื่อวานนี้

ขณะเดียวกัน ไชน่าอิสเทิร์น ก็จะขายหุ้นกระดานเอชจำนวน 1,276 ล้านหุ้นให้แก่บริษัทแม่ ซึ่งจะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของสายการบิน ด้วยจำนวนหุ้นรวมทั้งสิ้น 51% ทั้งนี้ ตามกฎหมายจีนจำกัดให้นักลงทุนต่างชาติสามารถถือหุ้นในสายการบินจีนสูงสุดแค่เพียง 25% เท่านั้น

จากกระแสข่าวข้างต้นส่งผลให้เมื่อวันอังคารการเทรดหุ้นของสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ในตลาดหุ้นสิงคโปร์ และของไชน่าอิสเทิร์น ในตลาดหุ้นฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ ต้องถูกระงับชั่วคราว ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่าจะมีการลงนามข้อตกลงกันในเร็ววันนี้

ทั้งนี้ ไชน่าอิสเทิร์น เป็นสายการบินที่อ่อนแอที่สุดในบรรดา 3 สายการบินบิ๊กบึ้มของรัฐบาลจีน โดยปัจจุบันสายการบินต้องแบกรับทั้งหนี้สินและต้นทุนการบินที่สูง โดยในปี 2005 และ 2006 ไชน่าอิสเทิร์นขาดทุน 467 ล้านหยวน (60.9 ล้านเหรียญสหรัฐ) และ 3,310 ล้านหยวน (431.9 ล้านเหรียญสหรัฐ) ตามลำดับ อีกทั้งยังต้องเผชิญกับคู่แข่งที่หนาตามากขึ้นในฐานการบินที่เซี่ยงไฮ้

ไชน่าอีสเทิร์น ซึ่งไม่ได้รับการประกันเงินอุดหนุนจากรัฐบาล จึงพยายามแสวงหานักลงทุนเชิงยุทธศาสตร์มาช่วยอุ้มชู โดยเล็งสิงคโปร์ แอร์ไลน์สเป็นเป้าหมายสำคัญ

อย่างไรก็ตาม ไมเคิล อู๋ นักวิเคราะห์จากฟิต เรทติ้งของฮ่องกง กลับมองว่า การเกี่ยวดองกับยักษ์การบินลอดช่องครั้งนี้ อาจจะไม่สร้างความได้เปรียบให้แก่ไชน่าอีสเทิร์น เพราะปัญหาราคาเชื้อเพลิงเครื่องบินที่ยังไต่ระดับสูง ประกอบกับการเปิดเที่ยวบินมากเกินไปจนทำให้กำไรหดในบางเส้นทาง

Source : Manager Online