บอร์ดทอท.มีมติให้ทอท.ทำหนังสือแจ้งคิงเพาเวอร์ รื้อร้านค้าบังทางหนีไฟซึ่งมีกว่า 20 จุด ภายใน 30 วัน พร้อมแจ้งโมฆะสัญญาร้านค้าดิวตี้ฟรีและพื้นที่เชิงพาณิชย์ โดยไม่รออัยการ แต่ให้ทำหนังสือแจ้งอัยการเพื่อช่วยแก้ต่างกรณีพิพาทในอนาคต ระบุเรื่องที่กระทบความปลอดภัยรอช้าไม่ได้ ขณะที่"กัลยา"ไม่กล้าเซ็น บอร์ดต้องประชุมลับเซ็นต์รับรองมติร่วมรับผิดชอบ หวั่นอนาคตเอกชนฟ้องกลับ
นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง กรรมการและโฆษกคณะกรรมการบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท.เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ดทอท.ที่มีพลเอกสพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบกเป็นประธานวานนี้ (3 พ.ค.) ว่า ที่ประชุมมีมติให้ทอท.ส่งหนังสือถึงบริษัท คิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด และบริษัทคิงเพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด เพื่อแจ้งให้ทราบใน 2 ประเด็นคือ สัญญาให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรและโครงการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ในสนามบินสุวรรณภูมิเป็นโมฆะ และให้ดำเนินการรื้อถอนพื้นที่ร้านค้าที่ก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยต่อผู้โดยสารและทำพื้นที่ให้อยู่ในสภาพเรียบร้อยภายใน 30 วัน นับจากวันที่ได้รับหนังสือ มิฉะนั้นทอท.จะดำเนินการตามกฎหมาย
พร้อมกันนี้ ให้ทอท.ทำหนังสือถึงอัยการสูงสุด เพื่อแจ้งให้ทราบว่า ทอท.ได้ทำหนังสือแจ้งโมฆะสัญญาไปยังคิงเพาเวอร์แล้ว เนื่องจากก่อนหน้านี้ ทอท.ได้ขอความอนุเคราะห์จากอัยการสูงสุดเพื่อขอทราบแนวทางการออกหนังสือแจ้งมติบอร์ดเรื่องโมฆะสัญญา ทั้งนี้หากมีกรณีโต้แย้งสิทธิระหว่างทอท.กับบริษัททั้งสองเกิดขึ้น จึงขออนุเคราะห์อัยการในการดำเนินการแก้ต่างหรือว่าต่าง (แล้วแต่กรณี) ต่อไป
นายเจิมศักดิ์กล่าวว่า บอร์ดให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยดังนั้นเมื่อต้องส่งหนังสือให้บริษัทรื้อถอนแล้วก็แจ้งโมฆะสัญญาไปด้วย เพราะเรื่องนี้อยู่ในอำนาจบอร์ด ที่ทำตามคำวินิจฉัยของกฤษฎีกา ซึ่งการรื้อถอนร้านค้าที่กระทบต่อความปลอดภัยต้องดำเนินอยู่แล้วไม่ว่าสัญญาจะถูกต้องหรือโมฆะเพราะสุวรรณภูมิเป็นสนามบินไม่ใช่ศูนย์การค้า ซึ่งขณะนี้ร้านค้ามีมากเกินไปและรุกล้ำพื้นที่ใช้สอยของผู้โดยสาร เช่น คองคอร์ด ดี 5 มีการเอาโซ่มากั้นไม่ให้เดินผ่านเพื่อตั้งร้านค้าขายของ
โดยการประมูลเพื่อหาผู้ประกอบการใหม่ดิวตี้ฟรีนั้นจะต้องปรับยแนวคิดใหม่โดยขณะนี้ยืนยันว่ายังไม่ได้ตัดสิทธิ์คิงเพาเวอร์ในการร่วมประมูล แต่หากคณะทำงานชุดที่มีพลตำรวจเอกประทิน สันติประภพ เป็นประธานสรุปว่า คิงเพาเวอร์มีส่วนเกี่ยวข้องหรือสมรู้ร่วมคิดกับการทำสัญญาที่ไม่ถูกต้องก็ต้องพิจารณาเรื่องคุณสมบัติคิงเพาเวอร์กันใหม่
นายเจิมศักดิ์กล่าวว่า ข้อพิพาทที่จะเกิดขึ้นอยู่ที่ คิงเพาเวอร์จะฟ้องร้องต่อศาลหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องของเอกชน ซึ่งหากฟ้องร้องต่อศาลเพื่อให้คุ้มครอง ทอท.ก็ต้องฟังการพิจารณาของศาล ในขณะที่ทอท.ก็มีสิทธิ์ฟ้องร้องกลับได้ กรณีที่หลังทอท.ทำหนังสือแจ้งคิงเพาเวอร์ไปแล้ว บริษัทต้องดำเนินการรื้อถอนร้านค้าที่กระทบความปลอดภัยให้เสร็จใน 30 วัน ส่วนเรื่องโมฆะสัญญาแล้วเอกชนไม่ได้ดำเนินการใดๆ หรือนิ่งเฉย ทอท.จะพิจารณาฟ้องร้องต่อศาลในระยะอันสมควรต่อไป
แหล่งข่าวจากบอร์ดทอท. กล่าวว่า หลังจากบอร์ดมีมติให้ทอท.ส่งหนังสือแจ้งต่อคิงเพาเวอร์ฯโดยไม่รอคำแนะนำจากอัยการนั้น ปรากฎว่านางกัลยา ผกากรอง รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. ไม่กล้าลงนามในหนังสือที่แจ้งไปยังคิงเพาเวอร์เนื่องจากจะเป็นผลผูกพันที่เกี่ยวข้องกับภาระหากเอกชนฟ้องร้องในอนาคต ทำให้บอร์ดต้องประชุมลับอีกครั้งเพื่อเจรจาให้บอร์ดทุกคนลงนามรับรองมติดังกล่าว เพื่อให้รักษาการเอ็มดี ลงนาม ต่อไป
นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า มีร้านค้าที่บังทางหนีไฟและทางไปห้องน้ำขณะนี้ประมาณ 20 กว่าจุดที่ต้องเร่งแก้ไขใน 30 วัน ซึ่งเชื่อว่าเอกชนจะดำเนินการทันตามกำหนด โดยทอท.จะให้ผู้แทนสมาคมวิศวกรรมสถาน หรือ ว.ส.ท.) เข้ามาช่วยตรวจสอบเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานหลังปรับแก้แล้ว
Source : Manager Online
- Log in to post comments