กลับดอนเมืองเลื่อนเข้า ครม. พ่วงระหว่าง ปท.-ปัญหาลาม

แผนใช้ดอนเมืองไม่เข้า ครม. ธีระอ้างข้อมูลไม่พอและอาจย้ายเที่ยวบินระหว่างประเทศไปด้วย แฉเบื้องลึกพบปัญหาลามไม่หยุด จำเป็นต้องประเมินความเสียหายรันเวย์-แท๊กซี่เวย์ก่อนเข้า ครม. ล่าสุดพบน้ำซึมกระจายทั่วชั้นทรายใต้พื้นรันเวย์ ย้ำจุดยืนใช้ดอนเมืองแน่นอน แต่ต้องรอบคอบ สั่ง ทอท.รื้อแผนย้ายเที่ยวบินเปิดให้เที่ยวบินต่างประเทศที่ไม่ต่อเครื่องย้ายตามระหว่างปิดซ่อมบางส่วน ผู้รับเหมาเห็นด้วยเร่งระบายน้ำออกจากชั้นทรายใต้รันเวย์

พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า มีแนวโน้มจะไม่นำเรื่องการให้สนามบินดอนเมืองให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (6 ก.พ.) เนื่องจากยังขาดข้อมูลบางอย่าง เช่น เรื่องการอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารและสายการบิน เพราะเห็นว่ายังมีข้อมูลใหม่ๆ เข้ามาตลอดเวลา ดังนั้นจึงต้องการเสนอข้อมูลที่เป็นปัจจุบันมากที่สุดและสมบูรณ์ที่สุดต่อ ครม.ในการพิจารณาตัดสิน ซึ่งอาจจะต้องทบทวนเรื่องที่จะอนุญาตให้เฉพาะเที่ยวบินภายในประเทศกลับมาใช้ดอนเมืองอย่างเดียว โดยอาจจะพิจารณาให้เที่ยวบินระหว่างประเทศมาใช้ควบคู่ไปด้วย

นายสรรเสริญ วงศ์ชอุ่ม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า นโยบายที่จะให้เที่ยวบินบางส่วนย้ายกลับมาใช้ที่สนามบินดอนเมืองนั้นมีความชัดเจนแน่นอนอยู่แล้ วแต่อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะมีการเพิ่มจำนวนเที่ยว บินเพื่อให้เกิดความคุ้มค่าในการลงทุนปรับปรุงและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการเปิดใช้สนามบินด้วยเนื่องจากเที่ยวบินภายในประเทศที่ไม่ต่อเครื่องนั้นมีจำนวนไม่มากพอ จึงอาจให้สายการบินต่างประเทศที่บินระหว่างจุดและไม่มีปัญหาเรื่องการต่อเที่ยวบินย้ายมาด้วยอยู่ระหว่างการพิจารณาและกำหนดรายละเอียดที่ชัดเจนก่อน

"การทบทวนแผนการย้ายดอนเมืองนั้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปัญหาที่จะต้องมีการซ่อมและแก้ไขส่วนต่างๆ ภายในสนามบิน โดยจะต้องรอความชัดเจนและแนวทางการแก้ไขปัญหาในส่วนของรันเวย์ แท็กซี่เวย์รวมทั้งภายในอาคารผู้โดยสารซึ่งจะมีการจัดทำแผนและกำหนดกรอบเวลาในการซ่อมแต่ละส่วนที่ชัดเจน ซึ่งจะส่งผลให้มีเที่ยวบินบางส่วนต้องย้ายกลับมาใช้สนามบินดอนเมืองแบบถาวรและบางเที่ยวบินจะต้องย้ายเป็นการแบบชั่วคราวเพื่อช่วยลดความแออัดของสนามบินสุวรรณภูมิทำให้การซ่อมบำรุงมีความสะดวกและคล่องตัวมากขึ้น"

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า การเลื่อนเสนอครม.พิจารณาการใช้สนามบินดอนเมืองนั้นไม่ได้หมายความว่า นโยบายของกระทรวงคมนาคมโลเลแต่ต้องยอมรับว่าขณะนี้ข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาของสนามบินสุวรรณภูมิเพิ่มขึ้นทุกวันโดยเฉพาะปัญหากรณีที่รันเวย์และแท็กซี่เวย์ร้าว คณะทำงาน ฯยังไม่ได้สรุปผลความเสียหายว่ามากน้อยแค่ไหน ดังนั้นจึงเกรงว่าหากเสนอครม.ให้ย้ายเที่ยวบินภายในประเทศกลับมาใช้ดอนเมืองแล้ว ผลสำรวจพบรันเวย์และแท็กซี่เวย์เสียหายมากจำเป็นต้องย้ายเที่ยวบินอื่นๆ มาด้วย เพราะจะกระทบต่อการซ่อมแซมก็จะทำให้เกิดความสับสนมากขึ้น จึงเห็นว่าควรรถให้ได้ข้อสรุปเรื่องปัญหาดังกล่าวก่อน

“หลักการต้องใช้ดอนเมืองแน่นอนแต่จะใช้สำหรับอะไรบ้างต้องรอข้อสรุปและแผนการซ่อมแซมรันเวย์และแท็กซี่เวย์ของสนามบินสุวรรณภูมิก่อนว่าจะต้องปิดพื้นที่ส่วนใด แค่ไหน ซ่อมใหญ่หรือซ่อมเล็ก กระทบกับการบริหารจัดการหรือไม่ นอกจากนี้การย้ายจะเกิดค่าใช้จ่ายและใช้เวลาด้วย อย่างไรก็ตาม หากรันเวย์มีความเสียหายมาก อาจต้องพิจารณาเพื่อย้ายเที่ยวบินระหว่างประเทศในภูมิภาคมาด้วย ซึ่งจากข้อมูลและรายงานเบื้องต้นพบว่ารันเวย์และเท็กซี่เวย์มีความเสียหายค่อนข้างมาก”แหล่งข่าวกล่าว

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า จากข้อมูลที่พบเกี่ยวกับปัญหาสนามบินสุวรรณภูมิทำให้กระทรวงคมนาคมจำเป็นต้องทบทวนและประเมินการตัดสินใจใหม่ว่าจะวางแผนการใช้ประโยชน์ดอนเมืองอย่าง ไรให้สอดคล้องกับแผนการแก้ไขปัญหาสนามบินสุวรรณภูมิรวมไปถึงความเป็นไปได้ในการสั่งปิดการใช้งานสนามบินสุวรรณภูมิเป็นการชั่วคราวอย่างน้อย1 ปี ซึ่งขึ้นอยู่กับผลการศึกษาวิเคราะห์ความเสียหายที่คณะทำงานชุดของนายต่อตระกูล ยมนาค เป็นประธานจะสรุปเสนอกระทรวงคมนาคมภายในวันที่ 16 ก.พ.นี้

**พบน้ำซึมกระจายทั่วชั้นทรายใต้พื้น

นอกจากนี้ ปัญหาที่น่าเป็นห่วงมากคือการตรวจพบปัญหาเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาของน้ำที่ซึมกระจายอยู่ทั่วทุกพื้นที่ในชั้นทรายของพื้นผิวรันเวย์และแท็กซี่ เวย์ซึ่งยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนรวมไปถึงปัญหาที่เกิดขึ้นภายในอาคารผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิมีอีกหลายส่วนที่จะต้องเร่งแก้ไขและเป็นประเด็นสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจว่าหากมีการปิดสนามบินสุวรรณภูมิจะเป็นเรื่องใหญ่ที่ทุกฝ่ายเป็นห่วงว่าจะส่งผลเสียหายมากกว่าโดยเฉพาะภาระค่าใช้จ่ายจากการย้ายเครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆรวมทั้งสนามบินดอนเมืองก็ไม่สามารถรองรับเที่ยวบินทั้งหมดได้

“แนวทางที่เป็นไปได้มากที่สุดคือจำเป็นจะต้องมีการปิดซ่อมเป็นส่วนๆได้เพราะดูจากสภาพพื้นที่กว้างใหญ่ของสนามบินสุวรรณภูมิแต่อาจส่งผลให้ต้องมีการย้ายเที่ยวบินบางส่วนกลับมาใช้ที่สนามบินดอนเมืองเป็นการชั่วคราว เพื่อทำให้การซ่อมบำรุงและแก้ไขหรือปรับรื้อพื้นที่ต่างๆทำได้ง่ายขึ้น“แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมกล่าว

แหล่งข่าวจากกลุ่มไอโอทีจอนย์เวนเจอร์ ซึ่งรับผิดชอบการก่อสร้างรันเวย์และแท็กซี่เวย์ กล่าวว่าเห็นด้วยกับข้อเสนอของสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (ว.ส.ท.)ที่เสนอให้เร่งระบายน้ำออกจากชั้นทรายโดยเร็วที่สุดยิ่งช้าจะทำให้ชั้นพื้นผิวเกิดความเสียหายมากขึ้นซึ่งทางไอโอที.ได้ดำเนินการเปิดพื้นที่เพื่อการแก้ไขมาเป็นเวลา 3 – 4 สัปดาห์ แต่ไม่สามารถดำเนินการใดๆได้เพราะต้องรอผลตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงจากคณะกรรมการชุดที่มีนายต่อตระกูลเป็นประธาน

แหล่งข่าวจากกลุ่มไอโอทีกล่าวว่า แนวทางการแก้ไขนั้นหากจะปล่อยให้น้ำระเหยหายไปเองนั้นจะต้องใช้เวลาประมาณ 20 สัปดาห์แต่ในขั้นตอนทางเทคนิคสามารถดำเนินการได้โดยการเจาะช่องตามร่องเขื่อนเพื่อให้มีการระบายน้ำออกจากชั้นทรายได้เป็นเรื่องปกติที่ในชั้นทรายจะต้องมีน้ำอยู่แล้วและลักษณะดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างของพื้นผิวสนามบินอย่างแน่นอน

นายชัยศักดิ์ อังค์สุวรรณ อธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ( ขอ.) กล่าวว่า ขอ.มีหน้าในการจัดเตรียมเอกสารเสนอต่อกระทรวงคมนาคม ซึ่งได้เสนอหลักการ ให้ย้ายเฉพาะเที่ยวบินภายในประเทศกลับไปดอนเมือง โดยการย้ายเที่ยวบินภายในประเทศมีผลดี ที่จะช่วยลดการคับคั่งที่สนามบินสุวรรณภูมิเพราะปริมาณการจราจรทางอากาศขยายตัวอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังช่วยชะลอการลงทุนเพื่อขยายขีดความสามารถของสนามบินสุวรรณภูมิไปได้อีกอย่างน้อย 4-5 ปี โดยในช่วงแรกประเมินว่าจะมีผู้โดยสารประมาณ 450,000 คน หรือ10% ของผู้โดยสารภายในประเทศที่ใช้บริการอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

นอกจากนี้กรมการขนส่งทางอากาศยังเสนอการใช้พื้นที่สนามบินดอนเมืองโดยภาพรวมด้วย โดยกำหนดว่าจะมีกิจกรรมหลักอื่นๆ คือ ให้บริการเที่ยวบินเช่าเหมาลำ เครื่องบินขนาดเล็ก เป็นศูนย์ซ่อมอากาศยาน และเป็นศูนย์ฝึกบินของสถาบันการบินพลเรือน

สำหรับแนวคิดเรื่องการใช้สนามบินดอนเมืองรองรับเที่ยวบินระหว่างประเทศด้วยนั้น ควรจะกำหนดชัดเจนว่าจะอนุญาตเฉพาะสายการบินในประเทศไทยเท่านั้นเพื่อให้เกิดความชัดเจนและทำให้ต่างชาติไม่รู้สึกเหลื่อมล้ำ ที่สำคัญจะต้องเก็บค่าธรรมเนียมต่างๆ ในอัตราที่เท่ากับสนามบินสุวรรณภูมิด้วย

อย่างไรก็ตามการแก้ไขปัญหาในสนามบินสุวรรณภูมินั้นยอมรับว่า ปัญหาส่วนหนึ่งเกิดจากการบริหารจัดการที่ขาดความรอบคอบและยืดหยุ่น โดยขณะนี้คณะกรรมการหรือบอร์ดบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) หรือทอท. ได้วางแผนให้มีการปรับแก้แล้ว อย่างเช่น ปัญหาความคับคั่งของเคาน์เตอร์เช็คอิน ที่ให้ปรับเป็นระบบเปิดโดยไม่ต้องล็อกให้เป็นของสายการบินใดสายการบินหนึ่งเมื่อมีผู้โดยสารจำนวนมากก็สามารถเปิดบริการได้ทันทีโดยไม่ต้องรอคิวนาน เช่นเดียวกับระบบการระบายผู้โดยสารขาเข้าจะต้องบริหารจัดการให้ผู้โดยสารออกจากสนามบินเร็วที่สุด

ส่วนการแก้ไขปัญหาอื่นๆ ยังติดขัดเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณ เนื่องจากกระบวนการค่อนข้างล่าช้าทำให้ปัญหาไม่สามารถแก้ได้อย่างราบรื่น แต่ล่าสุดพล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบกในฐานะประธานบอร์ดทอท. ได้หารือขอให้หาวิธีการอนุมัติงบประมาณในการแก้ปัญหาให้เร็วขึ้นแล้ว โดยการแก้ปัญหาที่ต้องใช้เงินงบประมาณมากที่สุดและเป็นงานที่เร่งด่วน คือ การซ่อมแซมรันเวย์และแท็กซี่เวย์ ที่ถึงแม้จะเป็นการซ่อมชั่วคราวแต่ก็ต้องซ่อมให้ใช้งานได้ไปก่อน เพราะเป็นเรื่องของความสะดวกและความปลอดภัยของทั้งสายการบินและผู้โดยสาร

นายทรงศักดิ์ แพเจริญ อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า การนำวัสดุการก่อสร้างบริเวณพื้นผิวรันเวย์และแท็กซี่เวย์ ของสนามบินสุวรรณภูมิที่พบปัญหารอยร้าวมาตรวจสอบเพื่อหาผลกระทบว่าการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า คุณสมบัติของทรายถือว่าของในเกณฑ์มาตรฐานยังไม่พบสิ่งผิดปกติ และผลการตรวจสอบหินคลุกผสมซิเมนต์ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบในขณะนี้ยังไม่สามารถระบุถึงปัญหาที่ชัดเจนได้ เพราะการตรวจสอบขณะนี้มีรายละเอียดในการตรวจสอบหาข้อชัดเจนของปัญหารันเวย์ เพียง 2 ชุด ซึ่งการตรวจสอบรายละเอียดถึง 3 ชุด รวมทั้งจะต้องเจาะลึกพร้อมตรวจสอบในชั้นทรายที่ลึกที่สุดด้วย

“อุปสรรคในการหาข้อมูลเพื่อนำมาตรวจสอบขณะนี้ การเข้าไปในพื้นที่เพื่อขุดเจาะตัวอย่างนั้น จะต้องขับเข้าในบริเวณรันเวย์และแท็กซีเวย์ เนื่องจากมีเครื่องบินขึ้นลงตลอดเวลา อย่างไรก็ตามในวันที่ 7 ก.พ.นี้ จะเข้าไปเจาะสำรวจหาข้อมูลเพิ่มขึ้น "นายทรงศักดิ์กล่าว

นอกจากนี้ จะต้องเจาะพื้นที่ส่วนอื่นที่ไม่ได้รับผลกระทบมาตรวจสอบ เพื่อขยายวงกว้างเปรียบเทียบว่ามีความแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไรก็ตาม คาดว่าผลการตรวจสอบจะได้ข้อสรุปอีก 2 สัปดาห์ โดยต้องมีการตรวจสอบหาค่าความแข็งแรง และสเปกที่กำหนดด้วยมาประกอบ รวมถึงค่าของระดับน้ำที่อยู่ใต้ดินด้วย ทั้งนี้ ต้องการให้หาวิทยาลัย และหน่วยงานที่มีความรู้ด้านวิศวกรรมร่วมกันศึกษาผลการตรวจสอบด้วย โดยหลักการทดสอบมีประเด็นคือ 1.คุณภาพการใช้งานของวัสดุก่อสร้าง 2.ทดสอบระดับน้ำใต้ดิน 3.ทดสอบความแข็งแรงกับความหนาแน่นของพื้นผิวโดยจะตรวจสอบทุกชั้นของพื้นผิวว่าจุดไหนเป็นจุดอ่อน

**ยันปรับปรุงดอนเมือง 45 วัน

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า รายละเอียดนอกเหนือจากการย้ายสายการบินนั้น จะมีเรื่องที่เกี่ยวข้องอีกหลายประเด็นด้วยกันคือ การให้บริการภาคพื้นดิน ซึ่งก่อนหน้าที่จะย้ายไปสนามบินสุวรรณภูมิได้ยกเลิกการให้บริการภาคพื้นดินแบบเต็มรูปแบบไปเป็นจำนวนมาก เหลือไว้เพียงการให้บริการสำหรับชาร์ทเตอร์ไฟท์ และธนาคาร สาขาย่อยภายในสนามบินดอนเมืองเท่านั้น ซึ่งหลังจากที่ครม.เห็นชอบอนุมัติในหลักการการโยกย้ายแล้ว ทางทอท.มีหน้าที่รับมาดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน ทั้งการย้ายอุปกรณ์ การติดตั้งเคาน์เตอร์บริการ ฯลฯ ด้วย เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารที่ต้องการมาใช้ในสนามบินดอนเมือง

ในส่วนของ ทอท.นั้นคาดว่าเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้บริหารแล้ว การแก้ไขปัญหาน่าจะดีขึ้น ส่วนเรื่องมลพิษทางเสียงทางกระทรวงคมนาคมติดตามเร่งรัดมาโดยตลอด แต่หลายฝ่ายยังไม่สามารถตกลงกันได้เนื่องจากต่างฝ่ายต่างก็ต้องการให้ได้ในสิ่งที่ตนเองอยากได้ เพราะฉะนั้นคงต้องใช้เวลาในการเจรจาอีกสักระยะหนึ่ง ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปตัดได้.

Source : Manager Online