สุวรรณภูมิทุ่มงบกว่า 4 พันล. ปรับปรุงบริการ แอร์เอเชียย้ายลดแออัด คาดปีหน้าผู้โดยสารโต 8%

Submitted by admin on

ทอท.เตรียมลงทุนประมาณ 4-5 พันล.ในปี 56 เพื่อปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกสุวรรณภูมิ ยันเปิดครบ 6 ปี แก้ปัญหามาตลอด ชี้แอร์เอเชียย้ายฐานไปดอนเมืองช่วยลดแออัด แต่ทำรายได้หดตามผู้โดยสารที่หายไป 10 ล้านคน/ปี คาดปี 56 ผู้โดยสารโต 8-9% อยู่ที่ 43-45 ล้านคน พร้อมเร่งเฟส 2 เพิ่มขีดรับเป็น 60 ล้านคน/ปี เผยแนวโน้มนักท่องเที่ยวจีน,อินเดียเพิ่ม

นายสมชัย สวัสดีผล ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. เปิดเผยว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเปิดให้บริการครบ 6 ปี โดยได้พัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกและการให้บริการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บริการผู้โดยสารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและในปี 2556 มีแผนการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ วงเงินลงทุนประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท เช่น

1. โครงการก่อสร้างอาคารปฏิบัติการและระบบลำเลียงกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสารเปลี่ยนเที่ยวบิน (Transfer Baggage Terminal) วงเงินประมาณ 1,800 ล้านบาท ดำเนินการ 18 เดือน (ก.ค.55-ธ.ค.56) จะสามารถขนถ่ายสัมภาระผู้โดยสารเปลี่ยนเครื่องได้ 3,960 ใบ/ชั่วโมง และลดเวลาในการต่อเครื่องของผู้โดยสารจากเดิม 75 นาทีเหลือ 60 นาที
2. ปรับปรุงระบบปรับอากาศ ประมาณ 677 ล้านบาท
3.ปรับปรุงห้องน้ำ ประมาณ 100 ล้านบาท โดยปัจจุบันมี 1,498 ห้อง ตามแผนจะเพิ่มอีก 26 ห้อง
4. ปรับปรุงระบบไอที 334 ล้านบาท
5. ปรับปรุงด้านระบบไฟฟ้า 378 ล้านบาท
6. ปรับปรุงป้ายบอกทาง

ธุรกิจการบินคึกคักรับตลาดจีนโต แอร์เอเชีย-นกแอร์ชิงเพิ่มเส้นทาง

Submitted by admin on

ธุรกิจการบินคึกคักรับตลาดอาเซียนและตลาดจีนนักท่องเที่ยวเติบโต ล่าสุดไทยแอร์เอเชียประกาศเพิ่มเส้นทางบินไปซีอาน ขณะที่ไชน่า เซาเทิร์น แอร์ ขอล่อนลงเชียงใหม่ ด้านนกแอร์ไม่หวั่นแอร์เอเชียย้ายมาดอนเมือง เล็งเปิดเที่ยวบินเชื่อมประเทศในอาเซียน

นายทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เอเชียเอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) สายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า บริษัทมีเป้าหมายเพิ่มจำนวนผู้โดยสารที่เข้ามาใช้บริการเฉลี่ยปีละไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคน ทำให้คาดการณ์ว่าในอีก 4 ปีนับจากนี้บริษัทจะมีจำนวนผู้โดยสารไม่ต่ำกว่า 16 ล้านคน จึงวางแผนธุรกิจที่จะมุ่งเพิ่มเส้นทางบินทั้งต่างประเทศและในประเทศ เช่น จังหวัดตาก สกลนคร เลย และน่าน คาดว่าจะเริ่มได้ปี 2558 ต้อนรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ถึงขณะนั้นเชื่อว่าธุรกิจการบินจะมีความคึกคักมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม การย้ายกลับมาให้บริการที่ท่าอากาศยานดอนเมืองในวันที่ 1 ต.ค.นี้ไม่มีความกังวลใดๆ เพราะเรื่องปัญหาน้ำท่วม เชื่อว่ารัฐบาลจะสามารถป้องกันได้ แต่หากเกิดน้ำท่วมจริงก็สามารถช่วยได้ ส่วนร้านอาหาร และร้านปลอดภาษีที่เสร็จประมาณ 80-90% ก็ไม่น่าจะมีปัญหากับการบริการส่วนบริการเชื่อมต่อระหว่างดอนเมืองกับสุวรรณภูมิ สำหรับผู้โดยสารต่อเครื่อง การท่าอากาศยานไทย (ทอท.) ได้จัดรถรับส่งระหว่างสนามบินดอนเมืองที่ชั้น 1 ประตู 8 กับสนามบินสุวรรณภูมิที่ชั้น 2 ประตู 3 ทุกครึ่งชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 05.00-24.00 น. พร้อมมีคอลเซ็นเตอร์เปิดของสายการบิน เพื่อให้ลูกค้าสอบถามข้อมูลตลอด 24 ชั่วโมง ช่วงวันที่ 28 กันยายน-5 ตุลาคมนี้

ย้าย 3 โลว์คอสต์ดันดอนเมืองมีกำไร ซ้อมใหญ่ลั่นพร้อมเปิดเต็มรูปแบบ 1 ต.ค.

Submitted by admin on

“ทอท.” ทดสอบระบบดอนเมืองเต็มรูปแบบราบรื่น พร้อมรับโลว์คอสต์ 1 ต.ค.นี้ เผยมีอีก 2-3 สายการบินสนใจย้ายเพิ่ม เผยดอนเมืองจะเริ่มกำไรหลังจากแบกขาดทุน 465 ล้านบาทต่อปีมาตลอดเหตุโลว์คอสต์ 3 สายย้ายมา ช่วยเพิ่มรายได้ทั้ง PSC ค่าธรรมเนียมขึ้นลง ค่าสัมปทานร้านค้าและดิวตี้ฟรี จัดรถวิ่งเชื่อมสุวรรณภูมิออกทุกครึ่งชั่วโมง ส่วนแท็กซี่ลงทะเบียนเพิ่มเป็น 3,000 คัน ด้านแอร์เอเชียเช็กระบบไม่มีปัญหา ย้ายเครื่องบิน 22 ลำในค่ำวันที่ 30 ก.ย. ส่วน ตม.จีดกำลัง 300 นายบริการ ยันคิวไม่ยาว

เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2555 เวลา 10.00 น. บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ได้ทำการทดสอบระบบการให้บริการผู้โดยสารของท่าอากาศยานดอนเมืองเพื่อเตรียมความพร้อมในการให้บริการเต็มรูปแบบในวันที่ 1 ตุลาคม 2555 โดยมีผู้โดยสารสมมติ 135 คนพร้อมกระเป๋าสัมภาระ ใช้บริการทั้งขาออกและขาเข้าระหว่างประเทศโดยเที่ยวบินสมมุติของแอร์เอเชีย คือ FD 3507 เส้นทางกรุงเทพฯ-สิงคโปร์ ออกเดินทางเวลา 13.10 น. โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เช่น แอร์เอเชีย, ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ศุลกากร เป็นต้นร่วมทดสอบกระบวนการให้บริการผู้โดยสารระหว่างประเทศตั้งแต่ ระบบเช็คอิน การลำเลียงกระเป๋าเข้าใต้ท้องเครื่องบินผ่านเครื่อง X-Ray ขั้นตอนตรวจหนังสือเดินทาง

การบินไทยจัดแคมเปญกระตุ้นยอดตั๋ว A380 ลำแรก เส้นทางกรุงเทพฯ-ฮ่องกง

Submitted by admin on

การบินไทยจัดงาน “รักคุณเท่าฟ้า Special” ออกโปรโมชันตั๋วราคาพิเศษ บินด้วย A380 ที่จะรับมอบลำแรกเส้นทางไป-กลับกรุงเทพฯ-ฮ่องกง เดินทาง 6 ต.ค.-14 ธ.ค. 55 และจำหน่ายบัตรโดยสารโปรแกรมทัวร์เอื้องหลวงในราคาพิเศษ เส้นทางระหว่างประเทศอื่นๆ 27-30 ก.ย. 55

นายปานฑิต ชนะภัย รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากที่การบินไทยจะมีการรับมอบเครื่องบินแบบแอร์บัส เอ380 ลำแรก ซึ่งเป็นเครื่องบินลำใหญ่ที่สุด และทันสมัยที่สุดในโลก ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อความสะดวกสบายสูงสุดของผู้โดยสารตลอดการเดินทาง เข้ามาให้บริการ ดังนั้น ในวันที่ 27-30 กันยายน 2555 การบินไทยจะมีการจัดงาน “รักคุณเท่าฟ้า Special” ขึ้น ณ ไลฟ์สไตล์ฮอลล์ ชั้น 2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน เพื่อให้ผู้โดยสารได้ร่วมภาคภูมิใจกับสายการบินแห่งชาติ และสัมผัสบริการเอื้องหลวงบนเครื่องบินแอร์บัส เอ380 ลำแรกของการบินไทย โดยจัดโปรโมชันจำหน่ายบัตรโดยสารเครื่องบินเส้นทางระหว่างประเทศในราคาพิเศษที่ลูกค้าการบินไทยจะซื้อได้ในงานนี้เท่านั้น ดังต่อไปนี้

บัตรโดยสารที่นั่งชั้นประหยัด ในเส้นทางระหว่างประเทศที่ทำการบินด้วยเครื่องบินแบบแอร์บัส เอ380 เส้นทางไป–กลับ กรุงเทพฯ–ฮ่องกง ราคาชั้นประหยัดเริ่มต้นที่ 9,200 บาท เส้นทางไป–กลับกรุงเทพฯ–สิงคโปร์ ราคาชั้นประหยัดเริ่มต้นที่ 9,015 บาท (ผู้โดยสารสามารถเริ่มต้นออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ได้ตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม–14 ธันวาคม 2555 ทั้งนี้ ต้องสิ้นสุดการเดินทาง (ไป–กลับ) ภายในวันที่ 14 ธันวาคม 2555 เท่านั้น

สื่อนอกตีข่าวคนไทยติดโผ ลูกค้าใจกว้าง-ให้ "ทิป" หนักสุดในเอเชีย-แปซิฟิก

Submitted by admin on

เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - สื่อต่างประเทศรายงานโดยอ้างผลสำรวจที่ระบุว่า ผู้บริโภคชาวไทยติดอันดับแจก “ทิป” มากที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

รายงานข่าวของสื่อต่างประเทศหลายสำนักทั้งหนังสือพิมพ์ “เดอะ จาการ์ตา โพสต์” ของอินโดนีเซีย รวมถึงเว็บไซต์ “เอเชีย วัน” ของสิงคโปร์ ซึ่งอ้างข้อมูลจากผลสำรวจของผู้ให้บริการบัตรเครดิตชื่อดังอย่าง “มาสเตอร์การ์ด” ระบุว่า ผู้บริโภคชาวไทยจัดเป็นผู้บริโภคที่มีจิตใจเอื้อเฟื้อมากที่สุดเมื่อเทียบกับบรรดาผู้บริโภคในอีก 14 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

ผลสำรวจของ “มาสเตอร์การ์ด เวิลด์ไวด์” ที่มีการเผยแพร่เมื่อวันพุธ (15) ระบุว่า ผู้บริโภคชาวไทยติดอันดับการให้ “ทิป” สูงที่สุดของภูมิภาคเมื่อเข้าไปใช้บริการตามร้านอาหารและบาร์ต่างๆ แซงหน้าอินโดนีเซีย ประเทศที่มีขนาดของเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เสียอีก โดยร้อยละ 89 ของผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทยระบุว่า พวกเขาจะให้ทิปเมื่อเข้าไปใช้บริการในร้านอาหารและบาร์ ตามมาด้วยผู้บริโภคชาวฟิลิปปินส์ในอันดับที่ 2 ที่ร้อยละ 75 ขณะที่อันดับที่ 3-6 ตกเป็นของผู้บริโภคจากเขตปกครองพิเศษฮ่องกง (ร้อยละ 71), อินเดีย (ร้อยละ 61), ออสเตรเลีย (ร้อยละ 55) และอินโดนีเซีย (ร้อยละ 40) ตามลำดับ

ขณะที่ผู้บริโภคที่ถูกระบุว่าควักกระเป๋าจ่ายทิปน้อยสุดในเอเชีย-แปซิฟิก คือ ลูกค้าชาวญี่ปุ่นซึ่งพบว่ามีเพียงร้อยละ 3 เท่านั้นที่ยินดีที่จะจ่ายเงินดังกล่าวในร้านอาหาร รองลงมา คือ ผู้บริโภคชาวเกาหลีใต้ (ร้อยละ 13) และไต้หวัน (ร้อยละ 17)

ทั้งนี้ มาสเตอร์การ์ดเผยว่าผลสำรวจดังกล่าวของตนได้มาจากการเก็บข้อมูลจากผู้บริโภคจำนวน 6,904 คนที่มีอายุระหว่าง 18-64 ปี ใน 14 ประเทศแถบเอเชียแปซิฟิก ระหว่างวันที่ 24 เมษายน จนถึง 10 มิถุนายนที่ผ่านมา

สื่อดังมะกันยก “เชียงใหม่” ติดโผ 6 สุดยอดจุดหมายปลายทางสำหรับมะกันชนและชาวต่างชาติวัยปลดเกษียณ

Submitted by admin on

เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - สื่อดังของสหรัฐฯ ยกย่องจังหวัดเชียงใหม่ของไทยติดโผ 1 ใน 6 จุดหมายปลายทางที่ดีที่สุดในโลก สำหรับการใช้ชีวิตของบรรดาชาวอเมริกัน รวมถึงชาวต่างชาติที่ถึงวัยปลดเกษียน

รายงานของฟ็อกซ์ นิวส์ ระบุว่า จังหวัดเชียงใหม่ แหล่งท่องเที่ยวชื่อก้องโลกทางภาคเหนือของประเทศไทยติดอันดับ 1 ใน 6 เมือง ที่เป็นจุดหมายปลายทางที่ดีที่สุดของชาวต่างชาติวัยปลดเกษียณ ด้วยเหตุผลที่สำคัญ คือ สภาพอากาศของเชียงใหม่ที่ค่อนข้างสบายตลอดทั้งปี รวมถึงการที่เชียงใหม่เป็นหนึ่งในเมืองใหญ่ที่มี “ค่าครองชีพต่ำ” อย่างไม่น่าเชื่อเมื่อเทียบกับอีกหลายเมืองของโลก

ข้อมูลของยังระบุว่า ชาวอเมริกันและชาวต่างชาติสามารถเดินทางมาตั้งรกรากและใช้ชีวิตหลังเกษียณได้อย่างสบายที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยชาวต่างชาติสามารถใช้ชีวิตได้ไม่ต่างจากราชา ทั้งที่มีต้นทุนด้านค่าครองชีพไม่ถึงเดือนละ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 63,000 บาท) เท่านั้น

นอกจากนั้นยังเป็นที่ทราบกันดีว่า เชียงใหม่ยังมีร้านอาหารสไตล์ตะวันตก มีแหล่งบันเทิงเริงรมย์ และมีแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมประเพณีที่งดงามจำนวนมาก รวมถึงยังเป็นจังหวัดที่มีความเจริญก้าวหน้าทางด้านการแพทย์อันทันสมัย แทบไม่ต่างจากกรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศที่อยู่ห่างออกไปกว่า 700 กิโลเมตร ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เชียงใหม่กลายเป็น “ที่หมายปอง” ของกลุ่มชาวอเมริกันและชาวต่างชาติที่ต้องการเริ่มต้นชีวิตใหม่หลังเกษียณ

สุวรรณภูมิจับมือท่าอากาศยานหลวงพระบางเป็น Sister Airport

Submitted by admin on

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเอ็มโอยูร่วมเป็น Sister Airport กับท่าอากาศยานหลวงพระบาง เพื่อสร้างพันธมิตรทางธุรกิจและพัฒนาศักยภาพส่งเสริมการตลาดร่วมกัน เผยหลวงพระบางมีการเติบโตผู้โดยสารต่อเนื่อง มีโอกาสในการพัฒนาและขยายเที่ยวบินได้อีกมาก

ว่าที่ เรืออากาศโท อนิรุทธิ์ ถนอมกุลบุตร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท.เปิดเผยว่า เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม 2555 ที่ผ่านมา ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ได้ทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างท่าอากาศยานหรือ Sister Airport Agreement กับท่าอากาศยานนานาชาติหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งการทำความร่วมมือในครั้งนี้ ทั้ง 2 ท่าอากาศยานจะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับการบริหารจัดการท่าอากาศยาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะมีการร่วมมือกันสร้างเครือข่ายทางธุรกิจทั้งด้านการรองรับผู้โดยสาร การรองรับสินค้า และด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจการบิน โดยทั้ง 2 ท่าอากาศยานจะมีการจัดประชุม สัมมนา ทั้งระดับผู้บริหารระดับสูง และระดับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ รวมทั้งมีการศึกษาวิจัย เพื่อจะนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์ร่วมกันในการพัฒนาธุรกิจของทั้ง 2 ท่าอากาศยาน

ทั้งนั้ แม้ว่าท่าอากาศยานนานาชาติหลวงพระบางเป็นท่าอากาศยานขนาดเล็ก แต่เป็นท่าอากาศยานที่มีการบริหารจัดการเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง มีเสน่ห์เป็นที่ประทับใจของผู้ใช้บริการ และเป็นท่าอากาศยานที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยปี 2553 มีผู้โดยสารจำนวน 919,598 คน ปี 2554 เพิ่มเป็น 1,072,685 คน หรือว่าร้อยละ 16 และมีโอกาสสูงที่จะพัฒนาศักยภาพในการรองรับผู้โดยสารและเที่ยวบินได้อีกมาก ซึ่งการจับมือร่วมกันในครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพ ด้านการตลาดของทั้ง 2 ท่าอากาศยานให้มีการขยายตัวได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

"การบินไทย" เริ่มรับมอบเครื่องบิน "โบอิ้ง" ลำแรก ส.ค.นี้ นามพระราชทาน "พิลาวัณย์"

Submitted by admin on

"การบินไทย" เริ่มรับมอบเครื่องบิน "โบอิ้ง" ลำแรก ส.ค.นี้ นามพระราชทาน "พิลาวัณย์" คาดรับมอบครบ 8 ลำ ภายในปี 2556 เล็งนำร่องเปิด เส้นทาง "กรุงเทพ-นาริตะ" เผยห้องโดยสารตกแต่งครบครัน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกเพียบ

นายโชคชัย ปัญญายงค์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การบินไทยได้จัดหาเครื่องบินโบอิ้ง 777-300 ER รวมจำนวน 8 ลำ ซึ่งเป็นโครงการจัดหาเครื่องบินลำตัวกว้างสำหรับเส้นทางบินข้ามทวีป และสำหรับเส้นทางบินภูมิภาค

โดยเป็นการดำเนินการตามแผนกลยุทธ์ปี 2554-2560 เพื่อสนับสนุนกลยุทธ์การพัฒนาเครือข่ายเส้นทางบินและฝูงบินที่มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของฝูงบินด้วยการจัดหาเครื่องบินใหม่ ทดแทนการปลดระวางเครื่องบินที่มีอายุการใช้งานมานาน และเพิ่มปริมาณการผลิตเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของการบินไทย

ทั้งนี้ การบินไทย เริ่มทยอยรับมอบเครื่องบินโบอิ้ง 777-300ER ลำแรก นามพระราชทาน “พิลาวัณย์” ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2555 นี้ และจะรับมอบลำที่ 2 ในเดือนตุลาคม 2555 ส่วนอีก 6 ลำ โดยมีแผนรับมอบจนครบทั้ง 8 ลำ ภายในปี 2556

สำหรับเครื่องบินโบอิ้ง 777-300ER ลำแรก ที่ได้รับมอบนี้ จะนำไปทำการบิน ไป-กลับ วันละ 1 เที่ยวบิน ทุกวันในเส้นทางกรุงเทพ-นาริตะ และเมื่อได้รับมอบครบ 2 ลำในปีนี้ การบินไทยมีแผนจะนำไปทำการบิน ไป-กลับ ในเส้นทาง กรุงเทพ-โซล-ลอสแอนเจลิส และเส้นทาง กรุงเทพ-บรัสเซลส์

บริษัททัวร์มึนคนใช้บริการเที่ยวไทยวูบ 30%

Submitted by admin on

สทน.เสนอ 2 โครงการ อ้อนขอ ททท.ช่วยกระตุ้นคนไทยเที่ยวผ่านบริษัทนำเที่ยว ระบุอัตราคนไทยเที่ยวผ่านทัวร์ลดลงอย่างต่อเนื่อง ปีนี้วูบอีก 30% ประเดิมโครงการแรกช่วงลงโฆษณา ส่วนโครงการที่ 2 จัด “Thank you party” ยึดฐานลูกค้าเก่าและเพิ่มตลาดใหม่

นายยุทธชัย สุนทรรัตนเวช นายกสมาคมท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) เปิดเผยว่า ได้นำคณะกรรมการสมาคมเข้าพบนายธวัชชัย อรัญญิก รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อแนะนำตัว พร้อมขอความช่วยเหลือ โดยเสนอให้ ททท.ช่วยสนับสนุนใน 2 โครงการ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศผ่านบริษัทนำเที่ยว ซึ่งรองผู้ว่าการฯ ได้รับเรื่องไว้พิจารณา และจะหารือในรายละเอียดอีกครั้ง

โครงการแรกขอให้ ททท.ช่วยเหลืองบโฆษณาประชาสัมพันธ์ในหนังสือพิมพ์ นิตยสาร ในรูปแบบกิจการร่วมค้า หรือคอนซอร์เตียม เริ่มดำเนินการตลอดปีงบประมาณ 2556 โดย สทน. ได้จัดสรรงบประมาณเพื่อเป็นทุนประเดิมในการลงโฆษณาไว้ที่ 1 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถลงโฆษณาได้นาน 2 เดือน

“ปัจจุบันตลาดเที่ยวในประเทศใช้บริการผ่านทัวร์ลดลงมาก ทำให้การโฆษณาในหน้าหนังสือพิมพ์ต่างๆ จะเน้นเส้นทางไปต่างประเทศ หากปล่อยไว้จะทำให้การเที่ยวผ่านทัวร์หายไปในที่สุด จึงคิดเริ่มโครงการนี้ โดยจะเริ่มตั้งแต่งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทยสบายกระเป๋า ซึ่งจะมีขึ้นตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย. 55 จากนั้นเดือนตุลาคมก็จะออกโฆษณาแพกเกจทัวร์ท่องเที่ยวทั้งหมดโดยเฉพาะแพกเกจที่ออกโดย ททท. อย่างเช่น โครงการเที่ยวตามรอยโครงการพระราชดำริ เป็นต้น โดยตลอดปีงบประมาณจะเน้นลงโฆษณาสร้างการรับรู้การเที่ยวผ่านบริษัททัวร์ออกไปยังกลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง”

แฉผลวิจัยท่องเที่ยว ไทยปลอดภัยต่ำสุด

Submitted by admin on

โพลสำรวจภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว ระบุนักท่องเที่ยวให้ระดับความปลอดภัยต่ำสุด ขณะที่การตัดสินใจเดินทางเข้ามาเพราะชอบการต้อนรับ ส่วนเรื่องอะเมซิ่ง รั้งอยู่อันดับ 3

รายงานข่าวจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้เผยผลสำรวจจากโครงการศึกษาภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยในสายตาของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ พบว่า 72.9% ของชาวต่างชาติที่เดินทางมาประเทศไทยเป็นการเดินทางมาเพื่อพักผ่อน ส่วนกลุ่มที่มาเพื่อเยี่ยมญาติมี 14.1% ขณะที่กลุ่มเดินทางเพื่อธุรกิจและประชุมมีสัดส่วน 8.6%

ในผลสำรวจยังพบว่า ในสายตานักท่องเที่ยวยกให้ไทยเป็นเมืองพุทธศาสนาที่มีภาพลักษณ์โดดเด่น แต่กลับไม่ใช่ปัจจัยดึงดูดให้เดินทางมาประเทศไทย เพราะ 5 อันดับแรกที่ตัดสินใจมาตามลำดับ ได้แก่ ชื่นชอบการต้อนรับ (Welcoming), การมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี (Friendly), ความตื่นตาตื่นใจ (Amazing) ซึ่งเป็นแนวคิดหลักที่ ททท.ส่งเสริมมาต่อเนื่อง, ความโดดเด่นในฐานะประเทศที่มีความสุข (Happy) และอันดับที่ 5 คือ ความน่าตื่นเต้น (Exciting)

นอกจากนั้นยังสำรวจเหตุผลที่ทำให้นักท่องเที่ยวไม่ตัดสินใจหรือเลื่อนเดินทางมาเที่ยวไทย มี 3 ปัจจัยตามลำดับ คือ ปัจจัยภาพลักษณ์เชิงลบจากวิกฤตการเมือง ภัยธรรมชาติ การค้าประเวณี มีผลต่อการตัดสินใจชะลอหรือแม้กระทั่งยกเลิกการเดินทาง ข้อนี้จะต้องอาศัยการแก้ไขภาพลักษณ์ในระดับประเทศ